ประกันคุณภาพ
ระบบและการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
คุณภาพการศึกษา
หมายถึง การบ่งชี้คุณลักษณะที่มีความเป็นเลิศ ทางด้านต่าง ๆ
ทั้งด้านการบริหารและด้านวิชาการ โดยผ่านกระบวนการผลิต เป็นระบบ
ประกอบด้วยปัจจัยนำเข้า การบวนการ และผลผลิตตามกรรมวิธี
การวัดด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับของสังคม การประกันคุณภาพการศึกษา หมายถึง การบริหารจัดการและการดำเนินกิจกรรมตามภารกิจปกติของสถานศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการทางการศึกษาทั้งผู้รับบริการโดยตรงได้แก่ ผู้เรียนและผู้ปกครอง และผู้รับบริการทางอ้อมได้แก่ สถานประกอบการและประชาชน
ดัง นั้น การประกันคุณภาพการศึกษา จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาจะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ซึ่งจะต้องมีบทบาทและหน้าที่สำคัญ ในการพัฒนาการประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน
ความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา
การ จัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เพื่อทำให้ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวคนได้รับการการพัฒนาอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นคนที่รู้จักคิดวิเคราะห์รู้จักแก้ปัญหา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มี คุณธรรม จริยธรรม รู้จักพึ่งตนเอง และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
หมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา
มาตรา 47 ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ประกอบด้วยการประกันคุณภาพภายใน และระบบการประกันคุณภาพภายนอก
การประกันคุณภาพภายใน หมายถึง การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจาก ภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำหับดูแลสถานศึกษานั้น
การประกันคุณภาพภายนอก หมายถึง การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจาก ภายนอก โดยบุคลากรจากภาพนอกสถานศึกษา หรือโดยหน่วยงานที่มีอำนาจได้แต่งตั้งให้คณะบุคคลดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบ คุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษาดังกล่าวตามที่กำหนด
ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
1. การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ 2. การพัฒนามาตรฐานการศึกษา 3. การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 4. การดำเนินงานตามแผนพัฒนา 5. การตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา 6. การประเมินคุณภาพการศึกษา 7. การรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี 8. การผดุงระบบการประกันคุณภาพ
รูปภาพที่ 1 แสดงขั้นบันใดการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา(ภายในและภายนอก)
การวางแผนการประกันคุณภาพแบบมีส่วนร่วม
จุดเริ่มต้นของการประกันคุณภาพคุณภาพ
การประกันคุณภาพเริ่มต้นที่ความพยายามของผู้บริหาร ครูและผู้เรียนในการปรับปรุงสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นตามเป้าหมายและวัตถุ ประสงค์ที่วางไว้ร่วมกับเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ (base-line standards or bench marks) ให้เพื่อขึ้นเรื่อยๆ ตามวิสัยทัศน์ที่เป็นเกณฑ์สูงสุดที่ต้องการไปให้ถึง(Kite-mark) ภายใต้เงื่อนไขทรัพยากร สังคมวัฒนธรรม เวลาและโอกาส โดยถือว่าเป็นภารกิจประจำของวัฒนธรรมองค์การ จนกลายเป็นวัฒนธรรมคุณภาพ(Quality Culture) ขององค์การและสถานศึกษานั้นๆ
หลักการสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาได้แก่
- การมีส่วนร่วม (Participation) โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) กับผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมประเมิน และร่วมรับผิดชอบกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
- การเสริมสร้างพลัง (Empowerment) โดยสร้างความรู้ทักษะ และความมั่นใจแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
- การกระจายอำนาจ (Decentralization) สถานศึกษาจะพัฒนาคุณภาพให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้อย่างเต็มที่ ต่อเมื่อสถานศึกษาเองต้องมีความเป็นอิสระเพียงพอที่จะคิดและตัดสินใจ ทั้งด้านการบริหาร วิชาการ และการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่ต้องการให้มีการกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษาสู่สถานศึกษาและท้องถิ่นให้มากที่สุด
- การสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบ (Accountability) สถานศึกษาต้องสร้างให้ทุกคนมีสำนึกในหน้าที่ของตนที่มีต่อการศึกษา เช่น หน้าที่ของความเป็นพ่อแม่ ครู เป็นต้น นอกจากนี้ กระบวนการทำงานและผลงานของสถานศึกษาแห่งนั้นต้องสามารถตรวจสอบได้ทุกเทื่อ โดยสังคมและประชาชน
- การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (Continuous Quality Improvement) การตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกในบริบทของการประกันคุณภาพ มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อให้ได้ข้อมูลย้อนกลับสำหรับใช้ในการวางแผน เพื่อการปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
1. การเตรียมความพร้อมของบุคลากร
ผู้บริหารสถานศึกษา จะต้องจัดให้บุคลากรในสถานศึกษามีความพร้อม โดยอาจดำเนินการใน 3 เรื่องคือ การสร้างความตระหนัก การสร้างเสริมความรู้ และการกำหนดความรับผิดชอบดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.1 การสร้างความตระหนัก ถึงคุณค่าของการประกันคุณภาพภายในและการทำงานเป็นทีมให้กับบุคลากรซึ่ง ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน เกิดความตระหนักเห็นความสำคัญและความจำเป็นของการประกันคุณภาพภายในสถาน ศึกษา โดยใช้เทคนิควิธีดังนี้
- สร้างทีมงานพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
- ให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการระดมความคิด ร่วมกันวางแผน และร่วมกันทำงาน
- สร้างมนุษยสัมพันธ์ในการดำเนินงาน
- เสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดขึ้นกับผู้ร่วมงาน มีภาวะผู้นำทางวิชาการ
- การ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโดยให้ทุกคนได้เข้าร่วมประชุม เชิงปฏิบัติการ ถ้าสามารถหาบุคลากรที่มีความสามารถจะเป็นแกนนำได้ ก็ควรมอบหมายให้แกนนำเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
- ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการนั้น ควรแบ่งเป็นช่วง ๆ ตามกิจกรรมที่ดำเนินการในแต่ละช่วง ดังนี้
ช่วง ที่ 2 เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการกำหนดกรอบและว่างแผนการประเมิน การสร้างเครื่องมือ จากนั้นก็ดำเนินการรวบรวมข้อมูลตามกรอบและแผนการประเมิน
ช่วงที่ 3 เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล การนำเสนอผลการประเมิน และการเขียนรายงานผลการประเมินตนเอง (Self Study Report) โดยจัดประชุมปฏิบัติการหลังจากที่บุคลากรมีการปฏิบัติงาน และมีการประเมินตนเองตามแผนไปแล้วระยะหนึ่ง
1.3 การกำหนดความรับผิดชอบ โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการ
- ผู้ บริหารมีความจำเป็นที่จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการ โดยมอบหมายให้บุคลากรเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อช่วยกันจัดทำแผน ดำเนินการพัฒนา และประเมินคุณภาพ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่รับผิดชอบตามภารกิจของตน
- การ ตั้งคณะกรรมการ ควรพิจารณาตามแผนภูมิโครงสร้างการบริหาร และให้บุคลากรรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานในภารกิจของตนเอง จะทำให้ระบบการประกันคุณภาพภายในหล่อหลอมเข้ากับการทำงานตามภารกิจของ บุคลากร ซึ่งจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพ และมีความเชื่อมโยงกันในการพัฒนาคุณภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากร ด้านกระบวนการ และด้านผู้เรียน อันจะก่อให้เกิดการพัฒนารอบด้านครบทุกด้าน
ข้อมูลสารสนเทศมีความสำคัญในการตัดสินใจดำเนินงานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการศึกษาและการกำหนดนโยบาย ซึ่งต้องมีข้อมูลที่มีคุณภาพ ถูกต้องครบถ้วนและทันสมัย จึงจะช่วยในการวางแผน การบริหารจัดการ และการตัดสินใจดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการาประกันคุณภาพภายในสถานศึกษานี้จะต้องมรการศึกษาข้อมูลสารสนเทศ เช่น
- ผลการดำเนินการและการประเมินตนเองในรอบปีที่ผ่านมา
- นโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนตนเอง
- ความคิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียนและชุมชน
ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา มีการดำเนินงานประกันคุณภาพ 3 ขั้นตอน คือ
1. การควบคุมคุณภาพ (Quality Control) เป็นการกำหนดมาตรฐานคุณภาพและการพัฒนาสถานศึกษาให้เข้าสู่มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย
- การกำหนดมาตรฐานด้านผลผลิต ปัจจัย และกระบวนการ
- การพัฒนาเข้าสู่มาตรฐาน หมายถึง การพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
- การประเมินความกว้าหน้าของการจัดการศึกษา
- การติดตามและตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การปรับปรุงคุณภาพสถานศึกษาที่มีคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การทบทวนคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
- การประเมินเพื่อรองรับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
- การประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมหรือการาประเมินคุณภาพการศึกษา
ระบบการประกันคุณภาพของสถานศึกษา ต้องให้หลักการบริหารที่เป็นระบบครบวงจร แบบ PDCA คือ
1. ร่วมกันวางแผน (Plan)
2. ร่วมกันปฏิบัติตามแผน (Do)
3. ร่วมกันตรวจสอบ (Check)
4. ร่วมกันปรับปรุง/นำไปใช้ (Action)
รูปภาพที่ 2 ร่วมกันปรับปรุง/นำไปใช้ (Action)แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระบบการประกันคุณภาพการศึกษา กับแนวคิดการบริหารที่เป็นระบบครบวงจรแบบ PDCA
หลักการสำคัญของการประกันคุณภาพภายใน
หลักการสำคัญของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ได้แก่
- จุด มุ่งหมายของการประกันคุณภาพภายใน คือ การที่สถานศึกษาร่วมกันพัฒนาปรับปรุงคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา โดยเป้าหมายที่สำคัญอยู่ที่การพัฒนาคุณภาพให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
- การ ประกันคุณภาพการศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารจัดการและการทำงานของบุคลากรทุกคนในสถาน ศึกษา โดยสถานศึกษาจะต้องวางแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติการที่มีเป้าหมายชัดเจน ทำตามแผน ตรวจสอบประเมินผล และพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ มีความโปร่งใส และมีจิตสำนึกในกาสรพัฒนาคุณภาพการทำงาน
- การประกันคุณภาพเป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ? อาจารย์ และบุคลากรอื่น ๆ ในสถานศึกษา โดยในการดำเนินงานจะต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้เรียน ชุมชน เขตพื้นที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย วางแผน ติดตามประเมินผล พัฒนาปรับปรุง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันผลักดันให้สถานศึกษามีคุณภาพ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ เป็นไปตามความต้องการของผู้ปกครอง สังคม และประเทศชาติ
ขั้นตอนการดำเนินการประกันคุณภาพภายใน
ระบบการประกันคุณภาพภายในเป็นเรื่องเดียวกับกระบวนการบริหารงานอย่างมีคุณภาพหรือวงจร PDCA ซึ่งเป็นระบบที่ผสมผสานอยู่ในกระบวนการบริหารและการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั่นเอง
ใน การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน ให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารและการทำงาน จะต้องคำนึงถึงเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน ซึ่งผู้บริหารจะต้องมีความตระหนัก เข้าสมีส่วนส่งเสริม สนับสนุน และร่วมคิดร่วมทำ รวมทั้งจะต้องมีการทำงานเป็นทีม โดยบุคลากรทุกคนในสถานศึกษาต้องได้รับการเตรียมความพร้อมให้มองเห็นคุณค่า และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน และดำเนินการอย่างต่อเนื่องร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา โดยมีการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินการประกันคุณภาพภายในอย่างเป็นระบบ
ใน การดำเนินการประกันคุณภาพภายใน ควรมีการเตรียมการเพื่อสร้างความพร้อมให้แก่บุคลากร และจัดให้มีกลไกในการดำเนินงาน บุคลากรทุกคนในสถานศึกษา และผู้เกี่ยวข้องจึงร่วมกันวางแผน ร่วมกันปฏิบัติ ร่วมกันตรวจสอบ และร่วมกันปรับปรุง โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานทั้งหมด ดังแผนภาพดังต่อไปนี้
i 4.1 ขั้นการเตรียมการ
เป็นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อสร้างความตระหนัก พัฒนาความรู้และทักษะ
แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบ
รูปภาพที่ 3 แสดงขั้นตอนการดำเนินการประกันคุณภาพภายใน
i 4.2 ขั้นการดำเนินการ
ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบประเมินผล และการพัฒนาปรับปรุง ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการร่วมกันในทุกขั้นตอน โดยมีรายละเอียดแต่ละขั้นตอน ดังนี้
c 1. การวางแผน (Plan)
การ วางแผนเป็นการคิดเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพื่อจะทำงานให้สำเร็จ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ สถานศึกษาควรมีการจัดทำแผนต่าง ๆ คือแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี แผนการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร และสอดคล้องกับเป้าหมายของสถานศึกษา แผนการประเมินคุณภาพการศึกษา แผนงบประมาณ ทั้งรายรับและรายจ่ายของสถานศึกษา ซึ่งแผนต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกัน ดังนี้
รูปภาพที่ 4 ความสัมพันธ์เชื่อมโยงของแผนต่าง ๆ ที่สถานศึกษาควรจัดทำ
ในการจัดทำแผนต่าง ๆ นั้น ควรวางแผนการประเมินผลไปพร้อมกันด้วย เพื่อใช้กำกับตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามแผนเพียงใด โดยมีการตั้งเป้าหมาย วิธีการ รูปแบบ ในการรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูล แผนการประเมินที่ดี ควรสอดคล้อง เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน
ดังนั้นโรงเรียนจึงมีขั้นตอนการวางแผน ดังแผนภูมิต่อไปนี้
รูปภาพที่ 5 แสดงขั้นตอนการวางแผน
การกำหนดเป้าหมาย
1. ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลก่อนการวางแผน ข้อมูลต่าง ๆ ที่ควรวิเคราะห์ คือ
- เป้าหมายหรือมาตรฐานหลักที่เป็นความต้องการส่วนรวมของสังคมและประเทศชาติ
- สภาพเศรษฐกิจ ? สังคมของท้องถิ่นและชุมชน ทั้งในด้านสภาพทั่วไป ปัญหาความต้องการและแนวโน้มการพัฒนา ซึ่งเป็นเป้าหมายหรือมาตรฐานเฉพาะ
- ข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาที่แสดงภาพของสถานศึกษาตามความเป็นจริง ได้แก่ สถิติข้อมูลพื้นฐาน ความสามารถในด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา
รูปภาพที่ 6 การกำหนดเป้าหมายของสถานศึกษา
3. การจัดอันดับความสำคัญของเป้าหมาย จะช่วยให้การวางแผนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตั้งประเด็นเพื่อพิจารณาความต้องการในด้านต่าง ๆ
4. กำหนด แนวทางการดำเนินงานหรือวิธีปฏิบัติงาน คือการนำเป้าหมายที่มีลักษณะเป็นความคิดเชิงนามธรรม มาทำให้เป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ โดยคิดโครงการหรือกิจกรรมที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ รวมกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จให้ชัดเจนด้วย
5. การกำหนดระยะเวลา การกำหนดระยะเวลาจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ เพราะผู้ปฏิบัติจะได้ทราบว่างานใดควรดำเนินการให้เสร็จอย่างไร
6. การ กำหนดงบประมาณควรคิดงบประมาณที่จะต้องใช้ในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะเป็นในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ
7. การ กำหนดผู้รับผิดชอบการกำหนดผู้รับผิดชอบที่เหมาะสม ในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แผนดังกล่าวสามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
C 2. การปฏิบัติตามแผน (Do)
บุคลากรร่วมกันดำเนินการตามแผนที่จัดทำไว้ โดยในระหว่างการดำเนินงานต้องมีการเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา และควรมุ่งเน้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรดำเนินการดังนี้
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรทุกคนทำงานอย่างมีความสุข
- จัดสิ่งอำนวยความสะดวก สนับสนุนทรัพยากรเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- กำกับ ติดตาม (Monitoring) ทั้งระดับรายบุคคล รายกลุ่ม รายฝ่าย เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้มีการดำเนินงานตามแผน
- ให้ การนิเทศ ผู้บริหารควรให้การนิเทศ เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องการจัดการเรียนการสอน การประเมินตนเอง และทักษะในด้านต่าง ๆ
การประเมินผล เป็นกลไกสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา เพราะจะทำให้ได้ข้อมูลย้อนกลับ ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการประเมินตนเอง ซึ่งเป็นการประเมินที่มุ่งเพื่อการพัฒนา ซึ่งกิจกรรมที่ต้องดำเนินการประกอบด้วย การวางกรอบการประเมิน การจัดหา/จัดทำเครื่องมือ การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การแปลความหมาย และการตรวจสอบ/ปรับปรุงคุณภาพการประเมิน ดังแผนภาพต่อไปนี้
รูปภาพที่ 7 แสดงกิจกรรมการตรวจสอบประเมินผลภายใน
การวางกรอบการประเมิน เพื่อเป็นการกำหนดแนวทางในการประเมิน และควร
เชื่อมโยงกับเป้าหมายคุณภาพหรือมาตรฐานการศึกษาที่ระบุในแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติการ
การจัดหา / จัดทำเครื่องมือ ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เอกำหนดเครื่องมือที่จะใช้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยมีขั้นตอนดังแผนภูมิต่อไปนี้
รูปภาพที่ 8 แสดงการจัดหา/จัดทำเครื่องมือ
การเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีแนวทางดังนี้
1. การรวบรวมข้อมูล
- ใช้ข้อมูลที่สถานศึกษามีอยู่แล้ว
- เก็บข้อมูลใหม่
- เก็บจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล
- เก็บตามเวลาที่สอดคล้องกับการทำงานตามปกติ
- ในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ควรระดมเก็บข้อมูลทุกอย่างพร้อมกันจำนวนมากความครอบคลุมของกลุ่มเป้าหมาย
- ข้อมูลเพื่อพัฒนาปรับปรุงเป็นรายบุคคล ต้องเก็บข้อมูลทุกคน
- ข้อมูลภาพรวมของสถานศึกษา หรือข้อมูลจากผู้ปกครอง ชุมชน เก็บจากกลุ่มตัวอย่าง
การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้รับผิดชอบร่วมกันพิจารณากรอบการวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละประเด็น และมีวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น
- การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนเป็นรายบุคคล
- การ วิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียนในภาพรวม การแปลความหมายข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ จะนำมาใช้ประโยชน์ได้ต้องนำมาแปลข้อมูลก่อน โดยการเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด ดังแผนภาพต่อไปนี้
สถานศึกษาดำเนินการประเมินตามแผนที่กำหนดไว้แล้ว ก็จะต้องมีกาตรวจสอบ กระบวนการและผลการประเมิน เช่น ด้านความเหมาะสม ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ โดยผู้บริหารมีการตรวจสอบในระหว่างการนิเทศ และประชุมร่วมกับคณะกรรมการเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำในการปรับปรุงและพัฒนา กระบวนการประเมินคุณภาพให้มีประสิทธิภาพ
C 4. การนำผลการประเมินมาปรับปรุงงาน (Action)
- การปรับปรุงการปฏิบัติงานของผู้บริหารและบุคลากร
- การวางแผนในระยะต่อไป
- การจัดทำข้อมูลสารสนเทศ
- การประเมินผล
i 4.3 ขั้นการเขียนรายงาน
เป็นขั้นที่จัดทำรายงานประเมินผลตนเองประจำปี..... หรือรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี..... ดำเนินการดังนี้
- รวมรวมผลการดำเนินงานและประเมินตนเอง
- วิเคราะห์ตามมาตรฐาน
- เขียนรายงาน
จากการดำเนินงานในการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษานั้น มีปัญหา และอุปสรรคดังนี้
- บุคลากร/ สถานศึกษา
- บุคลากรยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการประกันคุณภาพภายในสถานศึก
- บุคลากรไม่มีความรู้ในการจัดทำเครื่องมือในการประเมิน
- บุคลากรไม่ได้ให้ความร่วมมือในการดำเนินการประกันคุณภาพอย่างเต็มที่
- ด้านผู้ปกครอง และชุมชน ยังขาดความร่วมมือเท่าที่ควร
- สถานศึกษายังเก็บข้อมูลสารสนเทศไม่เป็นระบบ
- สถานศึกษาขาดการเก็บข้อมูลที่เป็นจริง
- งบประมาณไม่เพียงพอ
- การจัดหาเครื่องมือการประเมิน ยังไม่ทันสมัย
- การดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ยังไม่เป็นระบบ
- ขาดการวางแผนที่ดี
- ระยะเวลาในการประเมินไม่เหมาะสม กระชั้นชิด
- รูปเล่มของการรายงานไม่เป็นระบบและมีตัวอย่างที่เหมาะสม
- จัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
- สร้างความตระหนักและให้เห็นถึงความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา
- ปรับปรุงระบบการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาอยู่เสมอ
- จัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ
- จัดหาวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น