100 แนวข้อสอบผู้บริหารสถานศึกษา ชุดที่ 1

1.      1.  ประเภทอัตราเงินบำรุงการศึกษาสถานศึกษาของทางราชการทางราชการระดับอนุบาลหรือเทียบเท่าปีละเท่าไร

1. ปีการศึกษาละไม่เกิน 3,520 บาท
2. ปีการศึกษาละไม่เกิน 5,110 บาท
3. ปีการศึกษาละไม่เกิน 4,290 บาท
4. ปีการศึกษาละไม่เกิน 12,100 บาท

2. นโยบายของคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ –ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

1. การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

2. การรักษาความมั่นคงของรัฐและการค้าระหว่างประเทศกับต่างประเทศ

3. การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ

4. การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม

5. การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน

3.นโยบายของคณะรัฐมนตรี แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ –ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

1. การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

2. การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน

3. การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี  การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม

4. การรักษาความมั่นคงของฐานทัพและทางทหารรวมทั้ง และการสร้างสมดุล

ระหว่าง ทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณค่าและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

5. การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มี ธรรมาภิบาลและการป้องกัน

ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ / การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม  (การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุล

ระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน )

3.ใครเป็นบุคลากรหลักในการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ?
          1. ผู้บริหารโรงเรียน
          2. ครูที่ปรึกษา
          3. ครูแนะแนว
          4. ครูทุกคน

4.“ผู้บริหารสถานศึกษา” หมายความตามข้อใด

1. บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา

2.บุคลากรซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา

3.บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

4.บุคลากรซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

5. โปรแกรมบันทึกประมวลผล และรายงานข้อมูล เกี่ยวกับครุภัณฑ์รายโรงเรียน ตรงกับข้อใด
          1. M – OBEC  

2. B - OBEC
          3. P – OBEC   

4. DMC56

6.พิจารณากำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งการกำหนดจำนวนและอัตราตำแหน่งและเกลี่ยอัตรากำลังให้สอดคล้องกับนโยบาย การบริหารงานบุคคล เป็นอำนาจและหน้าที่ของใคร
          1. ก.ค.ศ         

2.สำนักงาน ก.ค.ศ.       

3.เลขาธิการ ก.ค.ศ.
          4.เลขาธิการ กพฐ.                           

5.อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

7.ข้าราชการครูผู้ใดถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานการศึกษานั้นพิจารณาเห็นว่าผู้นั้นมีความเหมาะสมที่จะบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ให้ผู้บังคับบัญชา ส่งเรื่องให้ใคร....เพื่อพิจารณาอนุมัติ
          1. อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาอนุมัติ
          2.สพท. โดยอนุมัติ    อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
          3.ก.ค.ศ. เพื่อพิจารณาอนุมัติ
          4.ผอ.สพท. โดย อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อพิจารณาอนุมัติ

8.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประกอบด้วยข้อใดไม่ถูกต้อง 
          1. ผู้แทนองค์กรชุมชน    

          2. ผู้แทนองค์กรเอกชน
          3. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

          4.ผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพครู 
          5.ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษา ผู้แทนสมาคมผู้ปกครองและครู และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม

9.เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในหน้าที่ของ ก.ค.ศ. เป็นอำนาจและหน้าที่ของใคร
          1.เลขา ก.ค.ศ.             

2.สำนักงาน ก.ค.ศ. 
          3.เลขาธิการ ก.ค.ศ.       

4.เลขาธิการ กพฐ.

10.วิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและการจัดระบบบริหารราชการในหน่วยงานการศึกษาเป็น.อำนาจและหน้าที่ของใคร

          1.เลขา ก.ค.ศ.             

2.สำนักงาน ก.ค.ศ.      

3.เลขาธิการ ก.ค.ศ.       

4.เลขาธิการ กพฐ.

11.ศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะนโยบาย ประสานงานและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นอำนาจและหน้าที่ของใคร
          1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน    

2.สำนักงาน ก.ค.ศ. 
          3.เลขาธิการ ก.ค.ศ.                                    

4.เลขาธิการ กพฐ.

12.ในกรณีที่ข้าราชการครูผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชา และให้การลาออกมีผลภายในกี่วัน
          1. ภายใน 30 วัน                  

2. นับตั้งแต่วันที่ผู้นั้นขอลาออก
          3. ภายใน 90 วัน                  

4. ภายใน 60 วัน

13.หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการลาออก การพิจารณาอนุญาตให้ลาออก และการยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกจากราชการให้เป็นไปตามให้เป็นไปตาม...ข้อใด
          1. ระเบียบที่ ก.ค.ศ. กำหนด      

2. กฎกระทรวง
          3. ระเบียบที่ อ.ก.ค.ศ วิสามัญที่ ก.ค.ศ. แต่งตั้ง กำหนด       

4.ถูกทั้ง 1 และ 2

14.ใคร..กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา ทั้งด้านวิชาการ งบประมาณการบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไปไปยังคณะกรรมการ .. สพท. และสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง
          1. เลขาธิการ กพฐ.       

          2. ปลัดกระทรวง         

3. กระทรวงศึกษา       

4. ถูกทั้ง 1 และ 2

15.ให้ใคร..ส่งเสริมให้มีระบบกระบวนการผลิตการพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง

          1.รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ             

2.กระทรวงศึกษาธิการ

          3.เลขาธิการ ก.ค.ศ.                          

4.เลขาธิการ กพฐ.

16.พิจารณาให้ความเห็นชอบประกาศ  สพท. ในการแบ่งส่วนราชการเป็นกลุ่มงานหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากลุ่มงานใน ..สพท.   เป็นบทบาทหน้าที่ของใคร
          1. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา       

2. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          3. อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา              

4. สพฐ.โดยความเห็นชอบ ของ  กพฐ.

17.พิจารณาให้ประธานกรรมการ หรือกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานพ้นจากตำแหน่ง เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถานศึกษาหรือหย่อนความสามารถ..เป็นบทบาทหน้าที่ของใคร
          1. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา       

2. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          3.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา              

4. ผู้อำนวยการ .สพท.

18.ใคร.พิจารณาให้ความเห็นชอบในการบริหารและการจัดการศึกษาที่เป็นอำนาจหน้าที่ของ.ผอ.สพท ในการปฏิบัติงานตามกรอบภารกิจทั้ง 4 ด้าน ตามที่ ..สพท. เสนอ
          1.  เลขาธิการ.. กพฐ.

2. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          3. อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา              

4.  คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

19.การประเมินผลและการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายในโดยบุคลากรของสถานศึกษาหรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้นความหมายตามข้อใด

          1.การประกันคุณภาพภายนอก              

2.การประกันคุณภาพภายใน

          3.มาตรฐานการศึกษา                       

4.มาตรฐานและคุณภาพการศึกษา

20.การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดย สมศ. หรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรอง เพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ข้อใดถูกต้อง
          1.การประเมินคุณภาพภายนอก   

2.การประกันคุณภาพภายใน
          3.มาตรฐานการศึกษา    

4.มาตรฐานและคุณภาพการศึกษา

          5.การประกันคุณภาพภายนอก

21.ใคร.พิจารณาให้กรรมการที่เป็นผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐ และของเอกชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการติดตาม  ตรวจสอบประเมินผลและนิเทศการศึกษาของ สพท. ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียบกพร่องต่อหน้าที่

          1. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา       

2.  ผอ.สพท
          3. อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา              

4. เลขาธิการ กพฐ.

22.ข้อใดไม่ใช่วิธีการจ้างออกแบบและควบคุมงาน
          1.วิธีตกลงราคา           ( .วิธีตกลง)
          2.วิธีคัดเลือก              

3.วิธีคัดเลือกแบบจำกัดข้อกำหนด          

4.วิธีพิเศษ

 23.  การจ้างออกแบบและควบคุมงาน กระทำได้ 4 วิธี ยกเว้นข้อใด
          1.วิธีตกลง       

2. วิธีคัดเลือก   

3. วิธีคัดเลือกแบบจำกัดข้อกำหนด

4. วิธีกรณีพิเศษ

23.ถ้าท่านเป็นผู้บริหารท่านจะพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้านใดจึงจะได้ผลดีที่สุด
          1. อุปนิสัยภาพลักษณ์ภายในจิตใจที่มั่นคง           

2.  อุปนิสัยเพื่อทำตามเป้าหมาย
          3. ทักษะ        

4. บทบาทที่แสดงออกต่อสังคม

24.ในบทบาทที่ท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในปัจจุบันท่านควรให้ความสำคัญกับสิ่งใดเป็นอันดับแรก
          1. วิสัยทัศน์ (Vision)             

2. วัฒนธรรมองค์กร (Competency)      

3. โครงสร้าง (Structure)         

4. กลยุทธ์ (Strategy)

25.ผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ซึ่งมิได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดให้ยื่นฟ้องใคร
          1. สำนักงบประมาณ     

2.กระทรวงยุติธรรม

3.สำนักนายกรัฐมนตรี

4.กระทรวงการคลัง

26.ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการพ.ศ. 2555 ให้ ใคร..รักษาการตามระเบียบนี้และมีอำนาจตีความ และวินิจฉัยปัญหา เกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้

          1. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ  

          2.  รัฐมตรี

3.นายกรัฐมนตรี          

          4.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

27.ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการพ.ศ. 2555 เข้ารับการเตรียมพล”หมายความตามข้อใด  ไม่ถูกต้อง

          1.เข้ารับการระดมพล                        

2.เข้ารับการตรวจสอบพล

3.เข้ารับการฝึกเตรียมพล         

4.เข้ารับการทดลองความพรั่งพร้อม

28. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการพ.ศ. 2555“ลาติดตามคู่สมรส”หมายความตามข้อใด

1.ลาติดตามสามีหรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่เป็นข้าราชการ ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือทางราชการสั่งให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตั้งแต่3ปีขึ้นไป

2.ลาติดตามสามีหรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือทางราชการสั่งให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตั้งแต่ไม่เกิน 2 ปีขึ้นไป

3.ลาติดตามสามีหรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือทางราชการสั่งให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตั้งแต่ไม่เกิน 4 ปีขึ้นไป

4.ลาติดตามสามีหรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือทางราชการสั่งให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตั้งแต่ 1ปีขึ้นไป

29.ข้าราชการผู้ใดได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการให้หน่วยงานใด ให้รายงานจำนวนวันลาให้หน่วยงานต้นสังกัดของผู้นั้นทราบตามข้อใด

1. อย่างน้อยปีละ2 ครั้ง

          2.อย่างน้อยปีละครั้ง

3.ปีละ1 ครั้ง              

4.อย่างมากปีละ 2 ครั้ง

30..การนับวันลาตามระเบียบให้นับตามข้อใด

1.สิ้นปีการศึกษา

          2.สิ้นปีงบประมาณตามปฏิทิน

3.ปีงบประมาณ

4.นับตามวันลาจริง

31.ข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้ลาได้หยุดราชการไปยังไม่ครบกำหนดถ้ามีราชการจำเป็นเกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาจะเรียกตัวมาปฏิบัติราชการระหว่างการลาก็ได้ เป็น การลาตามข้อใด

          1.ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร

 2.ลากิจส่วนตัว 

3.ลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร

4.  ถูกทั้ง 1 และ 2

 32.ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาหากประสงค์จะยกเลิกวันลาที่ยังไม่ได้หยุดราชการทำตามข้อใดถูกต้อง

1.ให้เสนอขอยกเลิกวันลาต่อผู้บังคับบัญชา

2. ให้เสนอขอยกเลิกวันลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต

3.ให้เสนอขอยกเลิกวันลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตให้ลาและให้ถือว่าการลาเป็นอันสิ้นสุด ก่อนวันมาปฏิบัติราชการ

4.ให้เสนอขอยกเลิกวันลาต่อผู้บังคับบัญชาและให้ถือว่าการลาเป็นอันสิ้นสุดหลังวันมาปฏิบัติราชการ

33.การลาให้ใช้ใบลาตามแบบท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการพ.ศ. 2555   เว้นแต่ในกรณีจำเป็นหรือรีบด่วนจะใช้ใบลาตามข้อใด..ก็ได้

1.ตามที่มีข้อความครบถ้วนตามแบบหรือจะลาโดยวิธีการอย่างอื่นก็ได้แต่ต้องส่งใบลาตามแบบในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการ

2.ตามที่มีข้อความไม่ครบถ้วนตามแบบหรือจะลาโดยวิธีการอย่างอื่นก็ได้แต่ต้องส่งใบลาตามแบบในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการ

3.ตามที่มีข้อความครบถ้วนตามแบบการลาเท่านั้น

4. ถูกทั้ง 1 และ 3

33.ประธานกรรมการและกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้อง

1.มีสัญชาติไทย            

2.เป็นบุคคลล้มละลาย  (ไม่ )      

3.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ             

4.ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

5. ไม่มีผลประโยชน์ส่วนได้เสียกับ..สพท..หน่วยงานหรือสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา

34.การขออนุญาตไปต่างประเทศซึ่งอยู่ติดเขตแดนประเทศไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในท้องที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศนั้นมีอำนาจอนุญาตไปประเทศนั้นได้ครั้งหนึ่งกี่วันตามลำดับ

          1.ไม่เกิน3วันและ7วันตามลำดับ             

2.ไม่เกิน7วันและ 3วันตามลำดับ

          3.ไม่น้อยกว่า 3 วันและ7วันตามลำดับ     

4.ไม่ต่ำกว่า 7วันและ3  วันตามลำดับ

35.คุณสมบัติเฉพาะ..ของกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาข้อใดถูกต้องที่สุด

1. ผู้แทนองค์กรชุมชนต้องเป็นสมาชิกกรรมการบริหารหรือผู้บริหารองค์กรนั้นและไม่เป็นครูเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาหรือของ..สพท.

2. ผู้แทนองค์กรเอกชนต้องเป็นสมาชิกหุ้นส่วนหรือกรรมการบริหารขององค์กรเอกชนนั้นและไม่เป็นครูเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาหรือของ..สพท.

3. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเป็นผู้บริหารหรือกรรมการบริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น

4. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

36. “คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ”กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 10 คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการ  กพฐ  เลขาธิการ กอศ เลขาธิการ กศอ. เลขาธิการ.สภาการศึกษา  และบุคคลดังนี้ข้อใดกล่าวผิด

1. อธิบดีกรมการแพทย์และ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

2.อธิบดีกรมสุขภาพจิตและ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

3.เลขาธิการ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ

4.ปลัดกระทรวงมหาดไทย

37.ในกรณีที่ข้าราชการครูผู้ขอลามีอาการป่วยจนไม่สามารถจะลงชื่อในใบลาได้จะต้องทำตามข้อใดถูกต้องที่สุด

1.ให้ภริยาหรือสามีลาแทนก็ได้แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้วให้เสนอหรือจัดส่งใบลาทันที

2.ให้ผู้อื่นลาแทนก็ได้แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้วให้เสนอหรือจัดส่งใบลาโดยเร็ว

3.ให้ครูในโรงเรียนลาแทนก็ได้แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้วให้เสนอหรือจัดส่งใบลาโดยเร็ว

4.ให้ผู้อื่นลาแทนก็ได้แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้ว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลา

ในวันที่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ

5..ให้ผู้อื่นลาแทนก็ได้แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้ว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาทันที

38.ให้ ใคร..ดำเนินการสรรหาและเลือกประธานกรรมการและกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการ

          1. ผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตพื้นที่นั้น                 

2. ผอ. สพท.

          3. สพท.         

4. ถูกทั้ง 2 และ 3                 

39.Knowledge Management : KM   จากโมเดลปลาทู ส่วนหัวปลาทู ตรงกับข้อใดครับ
          1. Knowledge Systems                  

2. Knowledge Sharing
          3. Knowledge Assets           

4. Knowledge Vision

40.เทคนิคการจัดวิธีการจัดการเรียนการสอน แบบสร้างแผนผังความคิด
          1.  Decision making

2. Concert spinring        

3. Concept mapping

 4. Case Study

41.นักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จะ  ว่าอย่างไร
          1.จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6        

2.จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          3. สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน               

4. สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

42.เพื่อใช้ในการปฏิบัติการสอนในรายวิชาและเป็นการเตรียมการสอนอย่างเป็นระบบและเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครูพัฒนาการเรียนการสอนไปสู่จุดประสงค์การเรียนรู้และจุดหมายของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึง ข้อใด ? 
          1. กำหนดการสอน       

2. แผนการสอน

3. บันทึกการอสน                  

4. วิธีสอน/แผนการเรียนรู้

43.ใคร..กำหนดเขตพื้นที่การศึกษาตามข้อใดกล่าวถูกต้อง

          1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษาแห่งชาติ

          2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา

          3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็นของสภาการศึกษาแห่งชาติ

          4.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็น ของ.สพฐ.

44 คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ”กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนกี่  คน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง

          1.จำนวน13 คน

          2.จำนวน 14  คน

          3.จำนวน 7 คน

          4,จำนวน 9 คน

45.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประกอบด้วย  ผู้แทนองค์กรชุมชน ผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้แทนสมาคมผู้ปกครองและครู และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมและตามข้อใดถูกต้อง

          1.ผู้แทนประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษา

          2.ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพผู้อำนวยการสถานศึกษา

          3.ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษา

          4.สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษา

46.“เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตาม พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. 2540 หมายความตามข้อใด

1.ข้าราชการซึ่งปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ    

2.ผู้ซึ่งปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ

          3.บุคลากรของรัฐ

4.พนักงานและข้าราชการซึ่งปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ

47.สพฐ.สั่งให้ใช้ e-Office ส่วนกลาง ระบบใหม่ ตั้งแต่วันที่ใด

1. 10 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป          

2.1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป

3.2   กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป                    

4.7   กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป

48.บุคคลที่ทำหน้าที่เลขานุการในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
          1. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา       

2. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
          3. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่งตั้ง
          4. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง

49.พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ไม่ใช้บังคับองค์กรหรือหน่วยราชการตามข้อใดกล่าวผิด
          1. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี       

2. การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
          3. การดำเนินกิจกรรมทางศาสนา (การดำเนินกิจการขององค์การทางศาสนา)

50.หน่วยงานที่ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง คือหน่วยงานในข้อใด
          1. กรมการปกครอง                

2. สำนักงานคณะกรรมการรัฐมนตรี
          3. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน      

4.  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

51.คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ละเว้นการกระทำ ถ้าผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่อาจบังคับให้ไป ชำระค่าปรับทางปกครองได้ โดยจำนวนเงินที่กำหนดต้องไม่เกิน..อัตราตามข้อใด
          1. 60,000 บาท/ต่อวัน  

2. 1,000 บาทต่อวัน     

3. 2,000 บาทต่อวัน     

4.20,000บาท/ต่อวัน

52.ข้อใดคือความหมายของคำว่า "คุณลักษณะอันพึงประสงค์"ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          1. ลักษณะที่หน่วยงานต้นสังกัดต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน

2.ลักษณะที่สังคมต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
          3.ลักษณะที่สถานศึกษาต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
          4.ลักษณะที่ผู้ปกครองต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน

53.การแจ้งคำสั่งทางปกครองโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกำหนดเวลาตามข้อใด
          1. 7วันนับภายในประเทศ หรือ 15วันสำหรับกรณี ส่งไปยังประเทศ
          2. 7 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือ 15 วันนับแต่วันส่ง

สำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ
          3. 15 วันนับภายในประเทศ หรือ 30 วันกรณีส่งไปยังต่างประเทศ
          4. 15วันภายในประเทศ หรือ 45 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ

54. ขู่เข็ญ  ใช้ชักจูง  ยุยง  ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กเล่นกีฬาหรือให้กระทำการใดเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการค้าอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็กหรือมีลักษณะเป็นการทารุณกรรมต่อเด็ก สมใจต้องถูกระวางโทษตามข้อใดได้

          1.จำคุก 2  เดือนหรือปรับ   3,000 บาท 

          2.จำคุก 1  เดือนหรือปรับ 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          3. จำคุก3  เดือนหรือปรับ 3,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          4. จำคุก 3  เดือนหรือปรับ  30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          5. ถูกทุกข้อที่กล่าว

55.ใช้จ้างหรือวานเด็กให้ทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตหรือขัดขวางต่อพัฒนาการของเด็ก

1.จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน   30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2.จำคุกไม่เกิน 2  เดือนหรือปรับไม่เกิน    20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. จำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท

56.จำหน่ายแลกเปลี่ยนหรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็กเจ้าหน้าที่จะระวางโทษโดยปรับกี่บาทได้ 

          1.    30,000 บาท

          2.     50,000 บาท

          3.   60,000 บาท

          4.   2,000 บาท

          5. ถูกทั้ง  1 และ 4

57.กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็กระวางโทษตามข้อใด

          1.จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน   30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

          2.จำคุกไม่เกิน 2  เดือนหรือปรับไม่เกิน    20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

          3. จำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

          4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000  บาท

58.จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือรักษาพยาบาลแก่เด็กที่อยู่ในความดูแลของตนจนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก. ระวางโทษตามข้อใด

1.จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน   30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2.จำคุกไม่เกิน 2  เดือนหรือปรับไม่เกิน    20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. จำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท

59.ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสาร หรือไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ตนหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าหรือ เห็นว่าตนไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันสมควรผู้นั้นมีสิทธิร้องเรียนต่อ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ  และคณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ  ภายในกี่วัน

1. 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน      

2. 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน

3. 60 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน      

4. 90 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน

60.กรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการถ้าคณะกรรมการพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดถ้าในกรณีนี้ถ้าที่มีเหตุจำเป็นให้ขยายเวลาออกไปได้แต่ต้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้อง...ไม่เกินกี่...วัน

          1. ไม่เกิน   30 วัน       

2.ไม่เกิน   60 วัน

3.ไม่เกิน    90 วัน       

4.ไม่เกิน  120 วัน

61.เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติว่า ข้อมูลข่าวสารของราชการจะเปิดเผยต่อบุคคลใดได้หรือไม่ภายใต้เงื่อนไขเช่นใด และสมควรมีวิธีรักษามิให้รั่วไหลให้หน่วยงานของรัฐกำหนดวิธีการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารนั้น ทั้งนี้ตามระเบียบที่ ใคร.....เป็นผู้กำหนด..ว่าด้วย  การรักษาความลับของทางราชการ

          1.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร

          2.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

          3.คณะรัฐมนตรี           

4.รัฐมนตรี

62.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดนั้น..อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของผู้ใด  ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ผู้นั้น..เสนอคำคัดค้านภายในเวลา..ที่กำหนด  ตามข้อใด

          1. ไม่น้อยกว่า   30  วัน           

2.ไม่น้อยกว่า     15  วัน

          3.ไม่น้อยกว่า   60  วัน            

4.ไม่น้อยกว่า   7  วัน

63.ผู้ที่ได้รับแจ้ง  หรือ ผู้ที่ทราบว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใด อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของตนมีสิทธิคัดค้านได้โดยทำเป็นหนังสือถึงใคร 

  1.ทำเป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้รับผิดชอบ

  2.เป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบและ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

 3.เป็นหนังสือถึงคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

 4. ทำเป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบและคณะกรรมการวินิจฉัย

การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร

64.ในกรณีที่มีการคัดค้านนั้น...เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ ต้องพิจารณาคำคัดค้านและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้คัดค้านทราบ  ตามข้อใด

1.โดยไม่ชักช้า            

2. โดยเร็ว

3. โดยพลัน               

4. โดยด่วนที่สุด หรือด่วนมาก

65.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด  หรือมีคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสีย..ผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อ..คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร  ภายใน  15 วัน  นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น...โดยยื่นคำอุทธรณ์ต่อใคร.

1.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร   

2.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ                  

3.คณะรัฐมนตรี                                        

4.รัฐมนตรี

66.ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล). และ .บุคคล” หมายความตามข้อใด

                 1.บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยและบุคคลไม่ธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

  2.บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยและบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่

มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

 3.บุคคลธรรมดาที่มีเชื้อชาติไทยและบุคคลธรรมดาที่ไม่มีเชื้อชาติไทยแต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

 4.บุคคลธรรมดาที่มีเชื้อชาติไทยและบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นฐานที่อยู่ในประเทศไทย

67.ถ้าเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนส่วนใด..ไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริงให้มีสิทธิยื่นคำขอเป็นหนังสือให้หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารแก้ไขเปลี่ยนแปลง..หรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนนั้นได้..ซึ่งหน่วยงานของรัฐจะต้องพิจารณาคำขอดังกล่าวและแจ้งให้บุคคลนั้นทราบตาม....ข้อใด

1.โดยไม่ชักช้า  

2. โดยเร็ว                 

3.ภายใน  7  วัน         

4.ภายใน  15  วัน

68.ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารให้ตรงตามที่มีคำขอให้ผู้นั้นมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน ..30..วันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารโดยยื่นคำอุทธรณ์ต่อใคร.

1. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

2.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร

3.เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ4.ถูกทั้ง 1 และ 2

69.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการใครเป็นประธาน

2.   ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน

3.   ปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่ง รัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน

4.     รองนายกรัฐมนตรีซึ่ง นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน

1.  รัฐมนตรีซึ่ง นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน

70. (.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ)  .ผู้ทรงคุณวุฒิอื่นจากภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกกี่..คน เป็นกรรมการ

          1. 7 คน         

2. 9 คน                  

3. 10 คน       

4. 3 คน

71.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ.มีอำนาจหน้าที่ตามข้อใด

          1.สอดส่องดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

2.ให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ตามที่ได้รับคำขอ

3. เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของ คณะรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัตินี้

4. พิจารณาและให้ความเห็นเรื่องร้องเรียนตามมาตรา  13 คือ..(ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสาร)

5. ถูกต้องทุกข้อ.

72.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ.มีอำนาจหน้าที่..จัดทำรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ.โดยการเสนอต่อ....ใคร.

1. รัฐมนตรีเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมแต่อย่างน้อยปีละ  1  ครั้ง

2.คณะรัฐมนตรี อย่างน้อยปีละ  1  ครั้ง

3.คณะรัฐมนตรีเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมแต่อย่างน้อยปีละ 2  ครั้ง

4.รัฐมนตรีเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมแต่อย่างน้อยปีละ  2  ครั้ง

73. ( คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ).กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่..ปี  นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งผู้ที่พ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้

1. 4 ปี

2. 3..ปี

3. 2 .ปี

4. ไม่เกิน 4 .ปี

74.ใคร.เป็นผู้แต่งตั้งให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่างๆ

1. รัฐมนตรีแต่งตั้ง..ตามข้อเสนอของ นายกรัฐมนตรี

2. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง.ตามข้อเสนอของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ.

3.คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง..ตามข้อเสนอของ นายกรัฐมนตรี

4. นายกรัฐมนตรีโดยคำแนะนำ.ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ.

75.ใครมีอำนาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้าน..และคำสั่งไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบ..ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล

1.คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

2.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร           

3.คณะกรรมการ

4.ถูกทั้ง 1 และ 2

76.สมศรีมีคำสั่งเรียกมาให้ถ้อยคำ พร้อมวัตถุเอกสาร หลักฐานพยานมาประกอบการพิจารณา  ตามคำสั่งของ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่ปฏิบัติตามที่ ต้องระวางโทษตามข้อใดได้

1.ระวางโทษจำคุก  3 เดือนหรือปรับ  30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

2.ระวางโทษจำคุก  6  เดือนหรือปรับ  6 0,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.ระวางโทษจำคุก 2  เดือนหรือปรับ  4,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

4. ถูกทั้ง 1 และ 2  ( ไม่เกิน 3 เดือนปรับ ไม่เกิน 5 พัน )

77.ผู้ใดฝ่าฝืน..หรือ..ไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัด..หรือ..เงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนดต้องระวางโทษ  ( พ.ร.บ ข้อมูลข่าวสาร 2540 )

1. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน    20,000  บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2. จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 3,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

78.ผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษา..จัดทำสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นท่าน จะศึกษาแนวตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก

1. วิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษาเพื่อทราบจุดเน้นหรือประเด็นปัญหาสำคัญ

2. ศึกษากรอบสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นที่..สพท.   กำหนดไว้

 3. ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียน

4. ดำเนินการจัดทำสาระท้องถิ่นในลักษณะที่จัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติม

79.ผู้บริหารสถานศึกษา ทำการพัฒนากระบวนการเรียนรู้.เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพจะต้องทำตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก

1.ส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลาย

2.จัดให้มีการนิเทศการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ

3.ส่งเสริมให้ใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้

4.จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วมตามสาระและหน่วยการเรียนรู้ แบบบูรณาการ

80.การออกแบบการเรียนรู้อิงมาตรฐานเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา..เพราะเป็นส่วนที่นำมาตรฐานการเรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติในการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานอย่างแท้จริง ..ทุกองค์ประกอบของหน่วยการเรียนรู้ต้องเชื่อมโยงกับ..เรื่องใด.

1.มาตรฐานการเรียนรู้และสาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้

2. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

3.สาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้

4.การวัดและประเมินผล

81.การออกแบบถอยหลังกลับหรือ Backward Design ที่นำมาใช้ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน...เป็นกระบวนการออกแบบ..ที่ยึดเป้าหมายสุดท้าย..ของการเรียนคือข้อใดที.. เป็นหลัก

          1.สาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้          

2.มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

          3.มาตรฐานการเรียนรู้                      

4. ถูกทั้ง 2 และ 3

82.ผู้บริหารสถานศึกษาต้องการ กำหนดระเบียบวัดและประเมินผลจะต้องทำตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก

1 ร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำระเบียบวัดและประเมินผลโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย

2. พิจารณายกร่างระเบียบประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

3  ปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้เหมาะสมสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

4 เสนอคณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ

83.สมุดบันทึกผลการเรียนรู้ ข้อใดถูกต้อง
          1. ปพ. 8                  

2. ปพ. 9                  

3.ปพ. 5          

4. ปพ.6

84.แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3)..สถานศึกษาจะต้องจัดทำส่งเอกสาร..ที่จัดทำเรียบร้อยแล้วไปให้หน่วยงานที่กำหนดภายในเวลากี่..วันหลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษา

          1.   15   วัน

          2.   30  วัน

          3.   60  วัน

          4.  120 วัน

85.เมื่อมีผู้มายื่นขอให้สถานศึกษาออกใบสุทธิหรือหนังสือรับรองความรู้ในกรณีที่เอกสารเดิมเกิดการสูญหายหรือเสียหายให้สถานศึกษาดำเนินการตามข้อใดอันดับแรก

1.  ยื่นคำร้องพร้อมแนบเอกสารการแจ้งความต่อสถานศึกษา

2. ให้ผู้ขอไปแจ้งความถึงเหตุแห่งการสูญหายหรือเสียหายต่อเจ้าพนักงานตำรวจ

3.  ให้ผู้ขอไปแจ้งความถึงเหตุแห่งการสูญหายหรือเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ใน สพท

 4.ทำการลงบันทึกในหมายเหตุประจำวันของสถานศึกษาไว้เป็นหลักฐาน

86.การจำหน่าย กระบือที่มีผู้บริจาคให้โรงเรียนต้องได้รับความเห็นชอบจากใคร.

1.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน       

2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

3.ผู้บริหารสถานศึกษา

4 . เจ้าของกระบือ นั้น

5. เลขาธิการ กพฐ

89.เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนสำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองมีรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน 40,000 บาทต่อปีเป็นการช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนระดับชั้นใด

          1.ชั้นป.1 ถึง ม.3                  

2.ชั้นม.1 ถึงม.3

          3.ชั้นป.1 ถึงม.6           

4.ชั้นป.1 ถึงป.6

90.ข้อใดไม่เป็น   การพัสดุ”

 1.การจัดทำเอง

2.การซื้อการจ้าง

          3.การจ้างที่ปรึกษา       

4. การเช่า       

5. เป็นทุกข้อที่กล่าวมา

91.กรณีที่มีการร้องเรียนด้วยวาจาให้จดปากคำให้ผู้ร้องเรียนลงลายมือชื่อและวันเดือนปีพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆประกอบการพิจารณา..แล้วดำเนินการจะดำเนินตามขั้นตอนใด

1.ให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง               

2.คณะกรรมการสอบสวนต่อไป

3.เรียกผู้ถูกร้องเรียนเข้าพบทันที่            

4.ตักเตือน

92.การกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่เป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งความตามข้อใดไม่ถูกต้อง

          1. กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกหรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหรือลงโทษที่หนักกว่าจำคุก

2. ละทิ้งหน้าที่ราชการเป็นเวลาเกินกว่า 15 วันไม่มีเหตุผลสมควร

          3. กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและได้รับสารภาพเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชา

4. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

93.การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาครูผู้ควบคุมจำเป็นเพื่อดูแลในการเดินทางโดยกำหนดให้ครูหนึ่งคนต่อนักเรียนกี่คน

1. ไม่เกิน 30 คน                   

2.ไม่น้อยกว่า 30 คน

3   30 คน

4.ไม่เกิน 20 คน

94.ประสานการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษารวมทั้งควบคุมดูแลบุคลากรการเงินการพัสดุสถานที่และทรัพย์สินอื่นของสถานศึกษาเป็นอำนาจหน้าที่ของ ใคร.

          1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน    

2. ผู้อำนวยการสถานศึกษา

          3. คณะกรรมการ  4  ฝ่าย                           

4. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

95.ใคร..มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารและการจัดการศึกษาและพัฒนาสาระของหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของ  สพฐ.

          1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน             

2. ผู้อำนวยการสถานศึกษา

          3 สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน                    

4. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

96.การแบ่งส่วนราชการภายใน  สพท.  ให้จัดทำเป็นประกาศกระทรวงและให้ระบุอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการไว้ในประกาศกระทรวงทั้งนี้โดยคำแนะนำของใคร.

1. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน     

2.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

3.เลขาธิการ..กพฐ.                           

4. สภาการศึกษา

97.ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา  หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  แล้วแต่กรณี  ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา  รวมทั้งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลาตามข้อใด

1. ไม่น้อยกว่า 120 วัน                      

2.ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

3. ปลายเดือนธันวาคม ของทุกปี            

4.ไม่น้อยกว่า 180 วัน

98.ให้ผู้ปกครองที่ประสงค์จะขอผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ  ยื่นคำร้องต่อสถานศึกษาที่เป็นเขตบริการตามข้อใด

1. ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาไม่น้อยกว่า 30 วัน

2.ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาไม่น้อยกว่า  60 วัน

3.ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาไม่น้อยกว่า  30 วันทำการ

4.ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาไม่น้อยกว่า  15 วัน

100.หลักเกณฑ์และวิธีการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.  2546   การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการ  ต้องได้รับความเห็นชอบ..จากใคร

1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน    

2.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

3.เลขาธิการ..กพฐ.                 

 4.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ขอบคุณที่มา : ผอ.สมบัติ พันธ์โพธิ์คา