1501.
.(คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ)
วางระเบียบเกี่ยวกับการรับเงินการจ่ายเงินการเก็บรักษาเงินและการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน
โดยความเห็นชอบของใคร.
1.กระทรวงการคลัง
2.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
3.สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
4.ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
5.
รัฐมนตรี
1502.อำนาจหน้าที่
ให้คำปรึกษาแนะนำและประสานงานแก่หน่วยงานและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็กทั้งของรัฐและเอกชน
1.ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ
2.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
3.สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
4.ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
1503.เด็กที่อยู่ในความดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะจัดให้เด็กเข้าอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพและสถานพัฒนาและฟื้นฟูจะต้องปรึกษากับผู้ใดก่อน
1.ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
2.การแพทย์ก่อนเท่าที่สามารถกระทำได้
3.พนักงานเจ้าหนาที่
4. ผู้ปกครองของเด็ก
5. ถูกทั้ง 1 และ 2
1504.เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ข้อใดถูกต้อง
1.เด็กเร่ร่อนหรือ เด็กกำพร้า
2.เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลง ณ ที่ใดที่หนึ่ง
3.
เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยเหตุใดๆเช่นถูกจำคุก กักขัง
พิการ
4.
เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรือประกอบอาชีพไม่เหมาะสมอันอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกายหรือจิตใจของเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแล
5. ถูกทุกข้อทีกล่าวมา.
1505. .เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ข้อใดถูกต้อง
1.เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำหรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
เช่น ขอทาน
2.
เด็กพิการ
3.
เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก
4.
เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง5. ถูกทุกข้อ.
1506..ถ้าไม่อาจดำเนินการให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์แก่เด็กและครอบครัวหรือบุคคลที่อุปการะเลี้ยงดูเด็ก เพื่อให้สามารถอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้จะต้องดำเนินการ
ตามข้อใด
1.มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูตามระยะเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน 2 เดือน
2.มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูตามระยะเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน 1 เดือน
3.มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูตามระยะเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน 3 เดือน
4.มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูตามระยะเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน 6 เดือน
1507.
การดำเนินการให้การสงเคราะห์เด็กต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองความยินยอมดังกล่าวต้อง
กระทำการ ตามข้อใดจึงจะถูกต้อง
1. เป็นหนังสือตามแบบที่ปลัดกระทรวงกำหนด
2.
หรือยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานอย่างน้อย1คน
3.หรือยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
5. ถูกทั้ง
1 และ 3
1508.
ถ้าในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีเหตุอันควรหรือไม่อาจให้ความยินยอมได้จะต้องดำเนินการอย่างไร
1. ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณีมีอำนาจส่งเด็กเข้ารับการสงเคราะห์ตามวิธีการดังกล่าวได้
2.ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดต้องฟังรายงานและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในสาชาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และการแพทย์ก่อน
3.
เจ้าหน้าที่ต้องเรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนและให้ยินยอม
4.
ถูกทั้ง 1 และ 3
5.ถูกทั้ง 1 และ 2
1509.ให้ใคร..สั่งให้เด็กพ้นจากการสงเคราะห์และมอบตัวเด็กให้แก่ผู้ปกครองรับไปปกครองดูแลได้แม้ว่ายังไม่ครบกำหนดระยะเวลาในการสงเคราะห์ก็ตามถ้าผู้ปกครองร้องขอและแสดงให้เห็นว่าสามารถปกครองและอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้
1.ปลัดกระทรวง
2.ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
1510.ในกรณีที่บุคคลที่ได้รับการสงเคราะห์มีอายุสิบแปดปีบริบูรณ์แต่ยังอยู่ในสภาพที่จำเป็นจะต้องได้รับการสงเคราะห์ต่อไปปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณีอาจสั่งให้บุคคลนั้นได้รับการสงเคราะห์ต่อไปจนอายุกี่ปี
1. 20 ปีบริบูรณ์
2. 24 ปี
3. 24 ปีบริบูรณ์
4.20 ปี
1511.ให้บุคคลนั้นได้รับการสงเคราะห์ต่อไปจนอายุ 20
ปีบริบูรณ์ถ้ามีเหตุจำเป็นอาจสั่งให้สงเคราะห์บุคคลนั้นต่อไปตามความจำเป็นและสมควรแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินเวลาที่บุคคลนั้นมีอายุครบกี่ปีบริบูรณ์
1. 20
ปีบริบูรณ์
2.24 ปีบริบูรณ์
3. 24 ปี
4. 25 ปีบริบูรณ์
1512.กรณีที่ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์.ถ้าผู้ปกครองไม่ให้ความยินยอมผู้ปกครองย่อมมีสิทธินำคดีไปสู่ศาลในเขตท้องที่นั้นภายในกี่..วัน.
1.180 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
2. 120 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
3. 60
วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
4. 90 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
1513.ในกรณีที่ผู้ปกครองมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะให้การเลี้ยงดูโดยมิชอบแก่เด็กอีกและได้เรียกผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บน
และให้วางประกันไว้เป็นจำนวนเงินตามสมควรไว้ตามข้อใด
1.
ฐานานุรูปแต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลา 2 ปี
2. ฐานานุรูปแต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลา
3 ปี
3. ฐานานุรูปแต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลา
1 ปี
4. ฐานานุรูปแต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลา
6 เดือน
1514.
. เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
1.
เด็กที่ถูกทารุณกรรม
2.
เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
3.
เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามที่กำหนดใน
กฎกระทรวง
1.
เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองตามที่กำหนดในสถานการณ์ต่างๆ
1515.เมื่อผู้ใดพบเห็นหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กให้รีบแจ้งตำรวจหรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
ให้เข้าตรวจค้นและให้มีอำนาจแยกตัวเด็กออกจากครอบครัวของเด็กเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามข้อใด
4.ภายใน 12
ชั่วโมง
2.โดยทันที
3.โดยมิชักช้า
1.โดยเร็วที่สุด
1516.การส่งเด็กไปสถานแรกรับสถานพัฒนาและฟื้นฟูหรือสถานที่อื่นใดในระหว่างการสืบเสาะและพินิจเพื่อหาวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมให้กระทำได้ไม่เกินกี่..วัน..แต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรมีคำสั่งขยายระยะเวลาออกไปรวมแล้ว..ไม่เกินกี่...วัน
1. 15 วัน ขยายระยะเวลาออกไปไม่เกิน 30 วัน
2. 7 ขยายระยะเวลาออกไปไม่เกิน 30 วัน
3. 15 วัน และขยายระยะเวลาออกไปไม่เกิน
60 วัน
4. 7 วัน
และมีคำสั่งขยายระยะเวลาออกไปไม่เกิน 60
วัน
1517.
กรณีที่ผู้ปกครองหรือญาติของเด็กเป็นผู้กระทำทารุณกรรมต่อเด็กถ้ามีการฟ้องคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิดและมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องนั้นจะกระทำทารุณกรรมแก่เด็กอีกหากศาลเห็นว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองเด็ก
เพื่อมิให้ถูกกระทำทารุณกรรมอีกให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งให้ตำรวจจับกุมมากักขังไว้มีกำหนดครั้งละ
ไม่เกินกี่........วัน
1.ไม่เกิน 15 วัน
2.ไม่เกิน 30 วัน
3.ไม่เกิน 60 วัน
4.ไม่เกิน 90 วัน
1518.การพิจารณาออกคำสั่งหรือการเรียกประกันให้คำนึงถึงเรื่องใดมากที่สุด
(
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 )
1.ฐานนะของเด็กและผู้ปกครอง
2.ประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
3.ฐานนะของเด็กและผู้ปกครองและ จิตใจของเด็กเป็นสำคัญ
4. ความเป็นจริงและตามสภาพความเป็นอยู่ของเด็กและผู้ปกครอง
1519.ในกรณีที่
พนักงานเจ้าหน้าที่ออกข้อกำหนดให้เด็กทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์หากผู้ปกครองไม่เห็นด้วยให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลภายในกี่วัน
1. 15 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
2.30 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
3.60 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
4. 120
วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง
1520.ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กได้รับการแต่งตั้งให้มีระยะเวลาคราวละไม่เกินกี่..ปี
1. ไม่เกิน 3 ปี 2.ไม่เกิน
4 ปี
3.ไม่เกิน 2 ปี 4.ไม่เกิน 1 ปี
1521.ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก มีอำนาจและหน้าที่ จัดทำรายงานและความเห็นเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของเด็กและของผู้ปกครองเสนอต่อใคร
1.สพฐ.
2.ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปกครองสวัสดิภาพ
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
5 ถูกทั้ง 2 และ 3
1522.มีอำนาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กได้ทั่วราชอาณาจักรตาม
(
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 )
1.
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
3.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
4. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
5. ถูกทั้ง 1 และ
4
1523..อำนาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ภายในเขตจังหวัด
1.
เจ้าของสถานผู้จัดตั้งที่ได้รับอนุญาตจากผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด
2. ผู้อำนวยการศูนย์ฯ
3. ปลัดอำเภอ
4.ผู้ว่าราชการจังหวัด
1524.ในสถานแรกรับ..สถานสงเคราะห์..สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู.ต้องมีใครเป็นผู้ปกครองดูแลและบังคับบัญชา
1.ผู้ปกครองสวัสดิภาพ
2.ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
4.ผอ. ศูนย์เครือข่ายฯ
1525.ใครมีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอน..ผู้ปกครองสวัสดิภาพ..ของสถานแรกรับสถานสงเคราะห์
1.ปลัดกระทรวง
2.
ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.
คณะกรรมการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร
4. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
5. ถูกทั้ง 1 และ 2
1526.อำนาจและหน้าที่ของใคร.ในการรับตัวเด็กที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพไว้เพื่อสืบเสาะและพินิจเด็ก
และครอบครัววินิจฉัยกำหนดวิธีการที่เหมาะสมในการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็ก
แต่ละคนถ้าจำเป็นอาจรับตัวเด็กไว้ปกครองดูแลชั่วคราวได้ไม่เกิน 3
เดือน
1. ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ
2.
ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.
คณะกรรมการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร
4. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
1527.หน้าที่ของใครจัดส่งเด็กที่ได้ดำเนินการไปยังสถานสงเคราะห์.สถานพัฒนาและฟื้นฟู.โรงเรียนหรือสถานที่อื่นใดที่มีวัตถุประสงค์ในการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก.ให้เหมาะสมกับวัยและสภาพของเด็กแต่ละคน
1.
ครูที่ปรึกษารับผิดชอบงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. ผู้ปกครอง สวัสดิ ภาพของสถานแรกรับ
3.
คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
4.
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
1528..อำนาจและหน้าที่ของใคร
มอบตัวเด็กแก่ผู้ปกครองหรือบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดู และถ้าเห็นสมควรอาจยื่นคำขอให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณี
แต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็ก
1. ครูที่ปรึกษารับผิดชอบงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2.
ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ
3. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
4.
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
5. ครูประจำชั้น
1529.อำนาจและหน้าที่ของใครให้คำปรึกษาแนะนำและช่วยเหลือแก่ผู้ปกครองในกรณีที่เด็กจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
1.
ผู้ว่าราชการจังหวัด
2. ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ
3.
คณะกรรมการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร
4.
ครูแนะแนว
5. อธิบดีกรมสุขภาพจิต
1530.อำนาจและหน้าที่ของใครจัดการศึกษาอบรมสั่งสอนและฝึกหัดอาชีพแก่เด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของสถานสงเคราะห์ให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน
1.ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานสงเคราะห์
2. ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ
3.
คณะกรรมการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร
4. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
1531.นักเรียนผู้ใดฝ่าฝืนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติและมีอำนาจนำตัวไปมอบแก่ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาเพื่อดำเนินการสอบถามและอบรมสั่งสอน
ถ้าไม่สามารถนำตัวไปมอบได้ให้ดำเนินการทำตามข้อใด
1. แจ้งเป็นหนังสือ
2.แจ้งด้วยวาจา
3. แจ้งตำรวจและผู้ปกครอง
4.ถูกทั้ง 1 และ 2
1532. ข้าราชการครู ผู้ใดได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ออกจากราชการไปปฏิบัติงานใด.ถ้าผู้นั้นขอกลับเข้ารับราชการ
และในกรณีที่ อ.ก.ค.ศ
เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา อนุมัติ
ให้ผู้มีอำนาจตาม ม. 53
สั่งบรรจุและแต่งตั้งแล้วให้ส่งสำเนาคำสั่งไป ยัง สำนักงาน ก.ค.ศ
ระยะเวลา ตามข้อใด
1. ภายใน 15
วัน นับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
2.ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
3.ไม่เกิน 15 วัน นับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
4.ไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันออกคำสั่ง
1533
.ใครเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก
1.
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
3.
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
4.เลขาธิการ กพฐ.
1534.
โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียนนักศึกษาและผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสมบัญญัติไว้ในมาตรใด
( พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 )
1.. ม. 65
2. ม. 63
3. ม. 64
4. ม. 66
1535.
นักเรียนผู้ใดหนีหรือฝ่าฝืนไม่ประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจนำตัวไปมอบแก่ผู้บริหารโรงเรียนของนักเรียนนั้นเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนใด
1.ดำเนินการสอบถามและอบรมสั่งสอน
2. ลงโทษ
3.ส่งให้ผู้ปกครองต่อไป
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
5. ถูกทั้ง 1 และ 3
1536.ประธาน คณะกรรมการพิจารณาให้คนพิการได้รับสิทธิช่วยเหลือทางการศึกษา
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.
เลขาธิการ กพฐ.
3.ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
4.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
1537.ประธานกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
2. รัฐมนตรีการกระทรวงมหาดไทย
3.
ปลัดกระทรวงมหาดไทย
4.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
5. เลขาธิการ
กพฐ.
1538.คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการกรรมการโดยตำแหน่งจำนวนกี่.คน
1. 14
คน
2. 10 คน
3. 7 คน
4. ไม่เกิน 10 คน
1539.คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ..กรรมการโดยตำแหน่งยกเว้น
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.เลขาธิการ..กพฐ.
3.
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4. เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
5. ผู้อำนวยการเขต
1540..
คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการกรรมการโดยตำแหน่ง ยกเว้น
1.
เลขาธิการสภาการศึกษา และ อธิบดีกรมการแพทย์
2. อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
และ ผู้แทนกรมสุขภาพจิต
3. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
4.
เลขาธิการ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
1541.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 14
คนซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวนนี้ต้องมีบุคคลซึ่งเป็นผู้แทนขององค์การคนพิการแต่ละประเภทจำนวนไม่น้อยกว่ากี่..คน
1. 3
คน
2. 7
คน
3. 8 คน
4. 5 คน
1542..คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการใคร
เป็นกรรมการและเลขานุการ
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.
เลขาธิการ..กพฐ.
3.
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4.
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
5.
ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
1543.ใครรักษาการตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ (ฉบับที่2 ) พ.ศ. 2556
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
2. นายกรัฐมนตรี
3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
1543.คนพิการมีสิทธิทางการศึกษา ตามข้อดังต่อไปนี้..ยกเว้น
1. ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต
2. ได้รับเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก
สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา
3.
เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคำนึงถึงความต้องการจำเป็นพิเศษของบุคคลนั้น
4. ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
5. ถูกทุกข้อทุกที่กล่าวมา
1544. . ให้สถานศึกษาในทุกสังกัดจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
โดยให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการ
และต้องมีการปรับปรุงแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
ตามข้อใด
1.อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
2.อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
3.ไม่เกินปีละ 1ครั้ง
4.ปีละ 1ครั้ง
1545.สถานศึกษาใดปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา
ถือว่าไม่ปฏิบัติตามข้อใด
1.ให้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามกฎหมาย
2. ให้ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์การจัดการศึกษาของสถานศึกษา
3.ให้ถือเป็นการไม่มีความพร้อมของสถานศึกษาและไม่มีความรับผิดชอบ
4.ให้ถือเป็นการไม่มีความพร้อมของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1546.หน่วยงานใดสนับสนุนให้..สพท.จัดการเรียนร่วมแก่คนพิการในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
1.
สพฐ.
2. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
3.กพฐ.
4. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา.
1547.ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดการศึกษาสำหรับคนพิการให้สอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษา เป็นอำนาจหน้าที่
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
4. ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
1548.หน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินการจัดการศึกษาโดยเฉพาะการจัดการเรียนร่วม การนิเทศ กำกับ ติดตาม
เพื่อให้คนพิการได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพตามที่กฎหมายกำหนด
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
3. สถานศึกษา
4. สพฐ.
1549.ใคร..ให้การสนับสนุนทรัพยากร
องค์ความรู้ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแก่ สพท.
1.อ.ก.ค.ศเขตพื้นที่การศึกษา.
2.
เลขาธิการ..กพฐ.
3 . ก.ค.ศ
4.
คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา.
5. สพฐ.
1550. .ใครมีอำนาจประกาศกำหนดเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
1.รัฐมนตรีโดยเห็นชอบของสภาการศึกษา
2.รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
3.รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4.สภาการศึกษาโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี
1551.มีอำนาจประกาศกำหนด..ในกรณีที่สถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาการกำหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาใดให้ยึดระดับการศึกษาของสถานศึกษานั้นเป็นสำคัญ
1.รัฐมนตรีโดยเห็นชอบของสภาการศึกษา
2.รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
3.รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ
.กพฐ.
4.รัฐมนตรีโดยเห็นชอบของ..กพฐ.
1552.อำนาจหน้าที่.ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษาประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดการศึกษาสอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษา
1.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
2..สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
3.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. ถูกทั้ง 2 และ
1
1553.การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกายจิตใจสติปัญญาอารมณ์สังคมการสื่อสารและการเรียนรู้หรือมีร่างกายพิการหรือทุพพลภาพหรือบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแลหรือด้อยโอกาสต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวอย่างไร.
1.
.มีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีความสามารถเป็นพิเศษ
2. มีสิทธิ และโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ
3.มีสิทธิเสรีภาพและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ
4.มีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสามารถและความรู้เป็นพิเศษ
1554.คณะกรรมการมีอำนาจเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งวัตถุเอกสารหรือพยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณาถ้า
ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษ
ตามข้อใด (ข้อมูลข่าวสาร )
1. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 5,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
2. จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 60,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
3. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1555.ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนดต้องระวางโทษตามข้อใด
(ข้อมูลข่าวสาร )
1. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน
20,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
2. จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 60,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
3. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
4. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000
บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1556. สถานศึกษาจัดทำสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก
1.
วิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษาเพื่อทราบจุดเน้นหรือประเด็นปัญหาสำคัญ
2. ศึกษากรอบสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นที่ สพท. กำหนดไว้
3.
ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนและนักเรียนข้อมูล
4.
ศึกษากรอบสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นที่ สพฐ. กำหนดไว้
1557.การพัฒนากระบวนการเรียนรู้.เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
สถานศึกษา จะต้องดำเนินการขั้นตอนใด เป็นอันดับแรก
1.ส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลาย
2.จัดให้มีการนิเทศการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ
3.ส่งเสริมให้ใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
4.จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม จัดตามสาระและหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการ(
ข้อ 3 อยู่ในข้อ 4)
1558.การออกแบบการเรียนรู้อิงมาตรฐานเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาเพราะเป็นส่วนที่นำมาตรฐานการเรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติในการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพมีองค์ประกอบของหน่วยการเรียนรู้ต้องเชื่อมโยงกับเรื่องใด.
1.มาตรฐานการเรียนรู้และสาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้
2. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
3.สาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้
4.การวัดและประเมินผล
1559.การออกแบบถอยหลังกลับหรือ(Backward Design) ที่นำมาใช้ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานเป็นกระบวนการออกแบบที่ยึดเป้าหมายสุดท้ายตามข้อใดเป็นหลัก
1.สาระสำคัญของหน่วยการเรียนรู้..เป็นหลัก
2.มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด.เป็นหลัก
3.มาตรฐานการเรียนรู้..เป็นหลัก
4. ถูกทั้ง 2 และ 3
1560.สถานศึกษา
กำหนดระเบียบวัดและประเมินผลจะต้องทำตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก
1 คณะกรรมการจัดทำระเบียบวัดและประเมินผลโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
2.พิจารณายกร่างระเบียบประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3
ปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้เหมาะสมสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4
เสนอคณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ
1561.
..แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3)สถานศึกษาจะต้องจัดทำส่งเอกสารที่จัดทำเรียบร้อยแล้วไปให้หน่วยงานที่กำหนดภายในเวลากี่ วัน
1. 15
วันหลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษา
2. 30
วันหลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษา
3. 60
วันหลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษา
4. 120
วันหลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษา
1562.เมื่อมีผู้มายื่นขอให้สถานศึกษาออกใบสุทธิหรือหนังสือรับรองความรู้ในกรณีที่เอกสารเดิมเกิดการสูญหาย
ให้สถานศึกษาดำเนินการตามข้อใดอันดับแรก
1.
ยื่นคำร้องพร้อมแนบเอกสารการแจ้งความต่อสถานศึกษา
2. ให้ผู้ขอแจ้งความถึงเหตุแห่งการสูญหาย
ต่อเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน
3.สถานศึกษาตรวจหลักฐานทางทะเบียนที่เกี่ยวข้อง
4.ลงบันทึกในหมายเหตุประจำวันของสถานศึกษาไว้เป็นหลักฐาน
5.ให้จัดทำทะเบียนการออกหนังสือรับรองความรู้
1563.โรงเรียนมีอำนาจปกครองดูแลบำรุงรักษาใช้และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากใคร.
1.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.ผู้บริหารสานศึกษา
4.คณะกรรมการ 4 ฝ่าย
5. เลขาธิการ กพฐ.
1564.จัดให้มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียนและผู้ปกครองโดยมีสาระสำคัญที่ท่านต้องดำเนินการ
อันดับแรกคือข้อใด
1.จัดให้มีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยป้องกันและแก้ไขปัญหา
2.
สำรวจเฝ้าระวังและติดตามนักเรียนที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
3.
แจ้งให้ผู้ปกครองของนักเรียนที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดให้ทราบถึงพฤติกรรม
4.พัฒนาระบบงานแนะแนวที่จะช่วยเหลือดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคล
5.
จัดให้มีการสนับสนุนให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการส่งเสริมความประพฤติและความปลอดภัยของนักเรียน
1565.. (Individualized Education Program : IEP)หมายถึง
1.แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
2. แผนการสอนรายบุคคล
3.แผนการจัดการศึกษารายบุคคล
4.แผนการจัดการศึกษาพิเศษเฉพาะบุคคล
1566.
.(Individual Implementation Plan : IIP)หมายถึง ข้อใด
1.แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
2.
แผนการสอนเฉพาะรายบุคคล
3.แผนการจัดการศึกษารายบุคคล
4.แผนการจัดการศึกษาพิเศษเฉพาะบุคคล
1567.
สพฐ.ดำเนินการโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ..ยกเว้นข้อใด
1.เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่ 5 ธันวาคม 2557
2.เพื่อแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กที่ประสบปัญหามีครูไม่ครบชั้นครูสอนไม่ตรงสาขาวิชาเอก
3.เพื่อขยายโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมไปยังพื้นที่อื่น
ให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
4.เพื่อขยายและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล
1568. กำหนดค่านิยมหลัก 12
ประการเพื่อสร้างคนไทยที่เข้มแข็งนำไปสู่การสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เข้มแข็ง ข้อใดกล่าวผิด
1. มีความรักชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน
2. ซื่อสัตย์เสียสละอดทนได้
3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง
ครูบาอาจารย์ สุดหัวใจ
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางอ้อม
5. ผิดทั้ง
2 และ 3
1569.จุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมจุดเน้นที่หนึ่ง ข้อใดถูกต้อง
1. ความเป็นผลเมืองไทยและผลโลก
2.ความมีวินัยในตนเอง
3.ความปรองดองสมานฉันท์
4.ความเป็นไทย
1570.ลักษณะที่ดีของคนไทยและ
ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมและประเพณีไทยเป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ความเป็นไทย
3. ความเป็นพลเมืองไทยที่ดี
4.
มารยาทไทยและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม
1571.การเห็นคุณค่าและ
การแสดงออกถึงความรักชาติยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ความปรองดองสมานฉันท์
3.รักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
4.ถูกทั้ง 1 และ 3
1572.การดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย
และการมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
. เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ความปรองดองสมานฉันท์
3.รักชาติยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
4.ถูกทั้ง 1 และ 3
1573.การอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งความหลากหลายและ
การจัดการความขัดแย้งและสันติวิธี.. เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ความปรองดองสมานฉันท์
3.รักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
4.ถูกทั้ง 2 และ 1
1574.ซื่อสัตย์สุจริตขยันหมั่นเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง..เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.ความมีวินัยในตนเอง
2.ความมีระเบียบวินัยในตนเอง
3.ความมีวินัยและขยันหมั่นเพียรอดทนใฝ่หาความรู้
4. ถูกทั้ง
2 และ 3
1575.ความปรองดองสมานฉันท์..เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1. จุดเน้นที่ 2
2..
จุดเน้นที่ 3
3.
.จุดเน้นที่ 4
4.. จุดเน้นที่ 5
1576.ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1.
จุดเน้นที่ 2
2. . จุดเน้นที่ 3
3. .จุดเน้นที่ 4
4.. จุดเน้นที่ 5
1577.รักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์…เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1. จุดเน้นที่ 2
2. . จุดเน้นที่ 3
3. .จุดเน้นที่ 4
4.. จุดเน้นที่ 5
1578.ความมีวินัยในตนเอง..เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1. จุดเน้นที่ 2
2. . จุดเน้นที่ 3
3. .จุดเน้นที่ 4
4.
. จุดเน้นที่ 5
1579.คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ผลการเรียนรู้ยกเว้นข้อใด
1. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย
2. แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลในครอบครัว
3. เห็นความสำคัญของภาษาไทย
4.. เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับชาติศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์
5 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย
1578.ความมีวินัยในตนเอง..เป็นจุดเน้นและขอบข่ายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ตามข้อใด
1. จุดเน้นที่ 2
2. . จุดเน้นที่ 3
3. .จุดเน้นที่ 4
4.
. จุดเน้นที่ 5
1581.ครูสมสี
ขอมี หรือ เลื่อนวิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ต้องมีภาระงานในการการสอนตามข้อใด
1.ไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง/สัปดาห์
2.
ไม่เกินว่า 18 ชั่วโมง/สัปดาห์
3.ไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง/สัปดาห์
4.ไม่เกินกว่า 20
ชั่วโมง/สัปดาห์
1582.คุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องอายุกี่ปี
1.ไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์
2.ไม่ต่ำกว่า 20
ปี
3.ไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
4.ไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์
1583.บุคคลที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูต้องมีอายุกี่ปี
1.ไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์
2.ไม่ต่ำกว่า 20
ปี
3.ไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
4.ไม่น้อยกว่า 20ปีบริบูรณ์
1583.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูมีอายุใช้ได้กี่ปี
1.ไม่เกิน 5 ปี
2.ภายในระยะเวลา 1 ปีและ 5ปี
3.5 ปี
4. ไม่น้อยกว่า 5 ปี
1584. อัตราค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูต่อสองครั้งรวมจำนวนเงินเท่าใด
1.200
บาท
2.300
บาท
3.400
บาท
1.500
บาท
1585.บุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มในตำแหน่งครูผู้ช่วยในระยะเวลาเท่าใด
1.ทุกๆ 3 เดือน
2.ไม่เกิน 2 ปี
3.2 ปี
4.ไม่ต่ำกว่า
2 ปี
1586.ข้อในไม่เป็นมาตรฐานวิชาชีพ
1.มาตรฐานการปฏิบัติคน
2.มาตรฐานการปฏิบัติงาน
3.มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
4.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
1587.ข้าราชการครู ตำแหน่งครู
เปลี่ยนตำแหน่งเพราะถูกเพิกถอนใบอนุญาต
หากมีตำแหน่งอื่นที่ไม่มีวิทยฐานะว่าง ต้องดำเนินการภายในกี่..วัน
1. 15 วัน
2.30
วัน
3.60
วัน
4.90 วัน
1588.
ผู้มีอำนาจสั่งพักราชการและสั่งให้ออกจากราชการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครู ในสถานศึกษา
1.
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
2 ผอ. สพท
3. อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
4. สพท.
1589.ตำแหน่งข้าราชการครูตามมาตราที่ 38
(ข)(1) คือตำแหน่งใด
1.ผู้ช่วยครู
2.รองผู้อำนวยการชำนาญการ
3.รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
4.รองผู้บริหารสถานศึกษา
1590.ตำแหน่งข้าราชการครุและบุคลาการทางการศึกษาตำแหน่งใดที่ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
1. รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญพิเศษ
2.ตำแหน่งครูมีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ
3. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญพิเศษ
4.ถูกทั้ง 2 และ 3
5. ถูกทั้ง 1- 2 และ 3
1590.ข้าราชการครูที่ถูกสั่งให้ออกไปรับราชการทหารเมื่อพ้นเกณฑ์
แล้วต้องยื่นเรื่องเพื่อขอรับราชการเป็นข้าราชการครูภายในกำหนดเวลาในข้อใด
1.ไม่น้อยกว่า
15
วัน
2.ภายใน 15 วัน
3.ภายใน 7 วันการ
4.ภายใน 180 วัน
1590.ข้าราชการครู ตำแหน่งครู เปลี่ยนตำแหน่งเพราะถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนตำแหน่ง
1.ผู้อำนวยการสถานศึกษาโดยเห็นชอบของ อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
2.ผู้อำนวยการสถานศึกษา
โดยอนุมัติของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
3. ผอ.สพท.
โดยเห็นชอบของ อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
4.
ผอ.สพท. โดยอนุมัติของ อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
1590.การย้ายข้าราชการครูผู้ใดไปดำรงตำแหน่งในหน่วยงานทางการศึกษาอื่นต่างเขตพื้นที่การศึกษาต้องได้รับอนุมัติตามข้อใด
1. อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา.โดยความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศึกษา
2.ก.ค.ศ
3.ผอ.สพท.
4.อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ( ม. 59. )
1591.กรณีครุผู้ช่วยมีผลการประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ที่
ก.ค.ศ กำหนด
ผู้ ผอ.รร. สั่งให้ออกจากราชการภายในกี่วัน
1. โดยพลัน
2. ภายใน 5
วันทำการและแจ้งให้ผู้นั้นทราบ. โดยเร็ว
3. ภายใน
7 วันและแจ้งให้ผู้นั้นทราบ. โดยเร็ว
4.ภายใน 5 วันและแจ้งให้ผู้นั้นทราบ. โดยเร็ว
1592. คณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มของครูผู้ช่วย มีดังนี้ข้อใดถูกต้อง
1. 3 คน มี
ผอ. รร. เป็นประธาน และผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสาถานศึกษา 1 คน เป็นกรรมการ
และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1
คน ทำหน้าที่ควบคุม ดูแล การเตรียมความพร้อมอย่างเข้ม
เป็นกรรมการและเลขานุการ
2. 3 คน มี ผอ. รร. เป็นประธาน และผู้ทรงคุณวุฒิ
คณะกรรมการสาถานศึกษาไม่น้อยกว่า 1 คน
เป็นกรรมการ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1 คน ทำหน้าที่ควบคุม ดูแล
การเตรียมความพร้อมอย่างเข้ม เป็นกรรมการและเลขานุการ
3.ไม่เกิน 3 คน มีรองผอ. รร. เป็นประธาน
และผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสาถานศึกษา 1 คน
เป็นกรรมการ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1 คน ทำหน้าที่ควบคุม ดูแล
การเตรียมความพร้อมอย่างเข้ม เป็นกรรมการและเลขานุการ
4. ถูกทั้ง
2 และ 3
5. ถูกทั้ง 1 และ 3
1593.ผู้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเสนอความดีความชอบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาในทางปฏิบัติที่ตามความเป็นจริงที่มีมา
คือข้อใด
1.ผู้บริหารสถานศึกษา และ ภรรยา
2. ผู้บริหารสถานศึกษา
3.ผอ.
สพท.
4.อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
5. ถูกทั้ง 2 และ 1
1593.ข้าราชการครูเห็นว่าคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจะทำให้เสียหายทางราชการ จะต้องทำอย่างไง
1.ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
2.เสนอผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งทันที
3.เสนอผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งภายใน 7 วัน
4.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น
นินทาต่อไป
5.กระชิบเบาๆ บอกว่า!. เมื่อไหร่จะพอ
1594.ข้อใดเป็นการงดโทษทางวินัยที่เบาที่สุด
1.ภาคทัณฑ์
2.ตัดเงินเดือน
3.ว่ากล่าวตักเตือน
4.ทำทัณฑ์บน
5.ถูกทั้ง 3 และ 4
1595.ในกรณีที่ครูผู้ช่วยสาวสวยหมวยอึ่ม
กระทำผิดวินัยเล็กน้อยและมีเหตุอันงดโทษท่านเป็นผู้บริหารจะดำเนินการอย่างไร
1.ให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือ
2.ว่ากล่าวตักเตือนหรือภาคทัณฑ์
3.ไปเยี่ยมบ้าน/เลี้ยงข้าวและบอกรัก
4.นำไปสาบานอย่าได้ทำอีก
5. ถูกทั้ง 1
และ2
1595. กรณีร้องทุกข์กระทำได้ในกรณีใด
1.ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์
2.ถูกสั่งให้ออกจากราชการ
3.คับข้องใจผู้บังคับบัญชา
4.ถูกทั้ง 1
และ 2
5. ถูกทั้ง 1-2 และ 3
1596.ผู้อำนวยการสถานศึกษามีอำนาจการลงโทษทางวินัยของ
ข้าราชการครูตามข้อใด
1.ภาคทัณฑ์
2.ตัดเงินเงินได้ไม่เกิน 5%
ไม่เกิน 2 เดือน
3.
ให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือ
4.ว่ากล่าวตักเตือน
5.ถูกทั้ง 1-2 และ 4
1597.ถ้าท่านเป็นข้าราชการครูสังกัด สพฐ.
ถูกสั่งให้ออกจากข้าราชการท่านจะดำเนินการอย่างไร
1.
ร้องเรียน
2.ร้องทุกข์
3.อุทธรณ์
4.ร้องให้และเสียใจ
5.ถูกทั้ง 1 -2 และ 3
1598.“ลาบ่อยครั้ง”ที่ปฏิบัติราชการในโรงเรียน คือ ข้อใด
1ไม่.เกิน 6 ครั้ง
2.เกิน 8 ครั้งขึ้นไป
3.เกิน 6 ครั้งขึ้นไป
4ไม่.เกิน 8 ครั้ง
1599. “มาทำงานสายเนืองๆ”
ที่ปฏิบัติราชการในโรงเรียนคือ ข้อใด
1ไม่.เกิน 9 ครั้ง
2.เกิน 8 ครั้งขึ้นไป
3.เกิน 9 ครั้งขึ้นไป
4ไม่.เกิน 8 ครั้ง
1600.ผู้อำนวยการสถานศึกษามีอำนาจพิจาณาอนุญาตให้ข้าราชการครูลาป่วยและลากิจส่วนตัว
ครึ่งหนึ่ง..ของการลาได้ตามข้อใด
1.ลาป่วย 30 วันทำการ ลากิจส่วนตัว
15 วันทำการ
2.ลาป่วย 60วัน ลากิจส่วนตัว
15วัน
3.ลาป่วย 30
วัน
ลากิจส่วนตัว 15 วัน
4.ลาป่วย 60 วันทำการ ลากิจส่วนตัว 30
วันทำการขอขอบคุณ ผอ.สมบัติ พันธ์โพธิ์คา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น