1801. กิจกรรม การให้บริการ ICT/บริการคอมพิวเตอร์ แก่นักเรียนเพิ่มเติมจากการเรียนคอมพิวเตอร์
พื้นฐานตามหลักสูตรปกติ โดยกำหนดจะต้องดำเนินกิจกรรมดังกล่าว..ตามข้อใดถูกต้อง
1.ไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมง/ปี/คน
2.อย่างน้อย 40
ชั่วโมง/ปี/คน
3. ไม่เกิน 40 ชั่วโมง/ปี/คน
4. ไม่ต่ำกว่า 40
ชั่วโมง/ปี/คน
1802. งบประมาณพัฒนากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อนักเรียน
1 คน ข้อใดจ่ายผิด
1.ก่อนประถมศึกษา 215 บาท/ภาคเรียน
(430 บาท/ปี)
2.ประถมศึกษา 240 บาท/ภาคเรียน ( 480. บาท/ปี)
3.มัธยมศึกษาตอนต้น 440 บาท/ภาคเรียน (880 บาท/ปี)
4.มัธยมศึกษาตอนปลาย
480 บาท/ภาคเรียน (960 บาท/ปี) 475 บาท/ภาคเรียน (950บาท/ปี)
1803.สถานศึกษาได้รับจัดสรรงบประมาณแล้วให้สถานศึกษาจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี
ทั้งนี้ ต้องผ่านความเห็นชอบของใคร..
1.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2.เลขาธิการ กพฐ.
3. ภาคี 4 ฝ่าย
4. ถูกทั้ง 1 และ 3
1804. กรณีที่ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับสิทธิ์ค่าเครื่องแบบนักเรียนและค่าอุปกรณ์
การเรียนแล้ว มีความประสงค์ที่จะบริจาคเงินที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวให้กับโรงเรียน ด้วยความสมัครใจ
โดยความเห็นชอบของใคร
1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และ ผู้อำนวยการสถานศึกษา
2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
3.ผู้อำนวยการสถานศึกษา
4.คณะกรรมการภาคี
4 ฝ่าย
5.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1805. นโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมติดตามประเมินผล
และร่วมรับผิดชอบ โดยกลุ่มเป้าหมายในการมีส่วนร่วม ประกอบด้วยดังนี้ ข้อใดถูกต้อง
1. นักเรียน ผู้ปกครอง
คณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
2. คณะกรรมการภาคี
4 ฝ่าย และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
5.นักเรียน ผู้ปกครอง
และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1806.นโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน.แนวทางการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วม ข้อใดกล่าวผิด
1.นักเรียนทุกคนมีบทบาทในการพิจารณาจัดซื้อ จัดหาเครื่องแบบนักเรียน
และอุปกรณ์การเรียนของตนตามความเหมาะสม
2.ผู้ปกครองทุกคนรับผิดชอบจัดหาเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน
ให้กับนักเรียนในปกครอง ให้เพียงพอ โดยเงินที่ได้รับสามารถถัวจ่ายได้ระหว่าง 5 รายการ (2 )
3.คณะกรรมการภาคี
4 ฝ่าย มีบทบาทร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ ประเมิน และปรับปรุงการคัดเลือกหนังสือเรียน
และ ร่วมกำหนดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
4. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีบทบาทให้ความเห็นชอบ ประเมิน และปรับปรุงการคัดเลือกหนังสือเรียน
และ ร่วมกำหนดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
1807. ใคร..มีบทบาทให้ความเห็นชอบ
ประเมิน และปรับปรุงการคัดเลือกหนังสือเรียน
และร่วมกำหนดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการใช้เงินที่เหลือจากการดำเนินการจัดซื้อหนังสือเรียนและเงินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และ ผู้อำนวยการสถานศึกษา
2. ผู้อำนวยการสถานศึกษา และคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
3.ผู้อำนวยการสถานศึกษา
4.คณะกรรมการภาคี
4 ฝ่าย
5.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1808.ใคร.มีบทบาทร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ประเมิน และปรับปรุงการคัดเลือกหนังสือเรียน
1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และ ผู้อำนวยการสถานศึกษา
2. ผู้อำนวยการสถานศึกษา และคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
3.ผู้อำนวยการสถานศึกษา
4.คณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
5.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1809 บทบาทหน้าที่คณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย ข้อใดกล่าวผิด
1. ให้ความเห็นชอบ ประเมินและปรับปรุงและคัดเลือกหนังสือเรียน
(ร่วมพิจารณา)
2. ร่วมกำหนดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้สอดคล้องกับความต้องการนักเรียน และสถานศึกษา
3. ให้ความเห็นชอบในการใช้เงินที่เหลือจากการดำเนินการจัดซื้อหนังสือเรียน
และเงินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนถัวจ่ายซึ่งกันและกันของสถานศึกษา
4.
ร่วมให้ความคิดเห็นในการประเมินผลเพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินงาน
1810.หน่วยงานใดจัดตั้งคณะกรรมการประสานงาน ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ภายในเขตพื้นที่การศึกษา
1. สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. สพท.
3. สพฐ
4. .คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
5. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
1811. สถานศึกษารายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ทางอิเล็กทรอนิกส์
(e-MES) ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข้อใดกล่าวผิด
1. สถานศึกษาในเขตภาคกลางที่เว็บไซต์
http://eme0๑.obec.go.th
2.สถานศึกษาในเขตภาคเหนือที่เว็บไซต์ http://eme๒.obec.go.th
3.สถานศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เว็บไซต์
http://eme๓.obec.go.th
4. สถานศึกษาในเขตภาคใต้ที่เว็บไซต์
http://eme๔.obec.go.th
1812. แนวทางการใช้งบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณงบ เพื่อ เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอนได้มากที่สุด แนวปฏิบัติ
ขั้นตอนการดำเนินอันดับแรก
1. ให้สถานศึกษาจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศึกษาที่สอดคล้อง
กับภารกิจของสถานศึกษานโยบายและจุดเน้นของ
สพฐ.
2.นำเสนอแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศึกษาเพื่อให้คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานเห็นชอบ
3. รายงานผลการดำเนินงานของสถานศึกษาให้สาธารณชนได้รับทราบ
4. การใช้จ่ายงบประมาณต้องสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการประจำปีของ
สถานศึกษา
1813.ใครมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงินการบัญชีของคุรุสภาเป็นประจำ ทุกปี แล้วรายงานให้รัฐสภาทราบ?
1. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
2. สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
3. เลขาธิการสำนักงานคุรุสภา
4. ประธานวุฒิสภา
5. คณะกรรมการคุรุสภา
1. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
2. สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
3. เลขาธิการสำนักงานคุรุสภา
4. ประธานวุฒิสภา
5. คณะกรรมการคุรุสภา
1814.ให้คุรุสภาเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านต่างๆ
ของคุรุสภา รวมทั้งรายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนดำเนินงาน แผนการเงิน
และงบประมาณของปีต่อไปต่อใคร....เพื่อทราบ
1.คณะรัฐมนตรี
2.
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
3. เลขาธิการสำนักงานคุรุสภา
4. ประธานวุฒิสภา
3. เลขาธิการสำนักงานคุรุสภา
4. ประธานวุฒิสภา
1815.ประกาศ สพฐ.เรื่อง เกณฑ์การประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2558
หนังสือที่รับเข้าประกวด แบ่งเป็นกี่..กลุ่ม
1. 3 กลุ่ม
2. 5 กลุ่ม
3. 7 กลุ่ม
4. 9 กลุ่ม
1816.ประกาศ สพฐ.เรื่อง เกณฑ์การประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2558 หนังสือที่รับเข้าประกวดข้อใด
กล่าวผิด
1.
หนังสือนวนิยาย
2.
หนังสือกวีนิพนธ์
3.หนังสือรวมเรื่องสั้น
4. หนังสือสำหรับเด็กเล็ก อายุ 3 - 6 ปี
5.หนังสือสำหรับเด็ก อายุ 6-11 ปี มี 2 ประเภท ได้แก่บันเทิงคดี และ สารคดี
1817. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนนักเรียนยากจน หมายถึง นักเรียนที่ผู้ปกครองมีรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน
40,000 บาทต่อปี กรณีจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรงให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการกี่คน
1. อย่างน้อย 2 คน
2.ไม่เกิน 3 คน
3.อย่างน้อย 3 คน
4.ไม่เกิน 2 คน
1817. การใช้จ่ายงบประมาณ. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนนักเรียนยากจน สถานศึกษาสามารถเลือกวิธีดำเนินการจ่ายหรือจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น
ได้ตาม ความเหมาะสม ข้อใดกล่าวผิด
1.ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน
จัดซื้อแจกจ่ายให้แก่นักเรียนหรือให้ยืมใช้
2.ค่าเสื้อผ้าและวัสดุเครื่องแต่งกายนักเรียน
จัดซื้อหรือจัดจ้างผลิตแจกจ่าย
ให้แก่นักเรียน
3.ค่าอาหารกลางวันจัดซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารหรือจ้างเหมาทำอาหาร
หรือจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรง
4. ค่าพาหนะในการเดินทางจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรง
5. ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
1818 เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนนักเรียนยากจน หมายถึง นักเรียนที่ผู้ปกครองมีรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน
40,000 บาทต่อปี. แนวทางการดำเนินงาน.
ระดับสถานศึกษา ข้อใดเป็นอันดับแรก
1.สำรวจข้อมูลนักเรียนยากจนและรายงาน.สพท.เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
2.จัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
3. ดำเนินการจัดกิจกรรมและควบคุมดูแลนักเรียนยากจน
4. ทำรายงานผลการดำเนินงาน ไปยัง สพท.
1819.
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน กรณีที่ไม่สามารถจัดอาหารให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกมื้อหรือ
จัดอาหารให้เพียงบางมื้อ ให้เบิกค่าใช้จ่าย
สำหรับนักเรียน เป็นค่าอาหารในลักษณะเหมาจ่าย ในอัตราดังนี้ ข้อใดกล่าวผิด
1. จัดอาหาร 2 มื้อ คนละไม่เกิน 80
บาทต่อวัน
2.จัดอาหาร 1 มื้อ
คนละไม่เกิน 160 บาทต่อวัน
3.ไม่จัดอาหารทั้ง 3
มื้อ คนละไม่เกิน 240 บาทต่อวัน
4.
ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
1820. หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน
กรณี
การจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรข้อใด กล่าวถูกต้อง
1. กรณีเป็นการบรรยายให้ความรู้กับนักเรียน
ให้จ่ายค่าสมนาคุณ วิทยากรได้ไม่เกิน 2 คน
2. กรณีเป็นการแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม ซึ่งได้กำหนดไว้ในโครงการ
ให้จ่ายค่าสมนาคุณ วิทยากรได้ไม่เกินกลุ่มละ 2 คน
3. กรณีเป็นการบรรยายให้ความรู้กับนักเรียน
ให้จ่ายค่าสมนาคุณ วิทยากรได้ไม่เกิน 1 คน
4. ถูกทั้ง 1
และ 2
5.
ถูกทั้ง 2 และ 3
1821.หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน.. ค่าอาหารสำหรับการจัดกิจกรรมมื้อละไม่เกิน
80 บาท หรือกรณีจำเป็นต้องจัดกิจกรรมในสถานที่ของเอกชนให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามข้อใด
1. ไม่เกิน มื้อละ 160 บาท
2. ไม่เกิน มื้อละ150 บาท
3. ไม่เกิน มื้อละ 240 บาท
4. ไม่เกิน มื้อละ 120 บาท
1822. หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน..ค่าเช่าที่พักตามที่หน่วยงานให้บริการที่พักเรียกเก็บหรือกรณีจำเป็นต้องพักในสถานที่ของเอกชนให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินอัตราที่กำหนด
ข้อใดถูกต้อง
1.ค่าเช่าห้องพักคู่ ไม่เกินคนละ 1,200
บาทต่อวัน
2.ค่าเช่าพักพักเดี่ยว
ไม่เกินคนละ 1,200 บาทต่อวัน
3.ค่าเช่าห้องพักคู่
ไม่เกินคนละ 600 บาทต่อวัน
4.ค่าเช่าพักพักเดี่ยว
ไม่เกินคนละ 600 บาทต่อวัน
5.ถูกทั้ง 2 และ 3
1823. หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน..ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้บริการสุขาให้เบิกได้ตามข้อใด
1. อัตราที่หน่วยงาน ที่ให้บริการเรียกเก็บแต่ไม่เกิน คนละ 10 บาท
2.อัตราที่หน่วยงาน ที่ให้บริการเรียกเก็บไม่เกิน คนละ 5 บาท
3.อัตราที่หน่วยงาน ที่ให้บริการเรียกเก็บ
4. คนละไม่เกิน 20 บาท
5. ไม่ต้องจ่าย ลงยิงกระต่ายข้างทาง
1824.ประกาศ
สพฐ.เรื่อง เกณฑ์การประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2558
หนังสือที่รับเข้าประกวด..หนังสือการ์ตูน และ หรือนิยายภาพ มีประเภทดังนี้ ตามข้อใดกล่าวผิด
1. การ์ตูน และ หรือนิยายภาพทั่วไป
2.การ์ตูน และ หรือนิยายภาพสำหรับเด็ก
3. นิทานสำหรับเด็ก และ หรือนิยายภาพสวยงาม
4.ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
1825. สถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนนอกเหนือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้นักเรียนเกินมาตรฐานที่รัฐจัด..ห้องเรียนพิเศษ MEP (Mini English Program) ข้อใดเก็บได้ไม่ถูกต้อง
1.ระดับก่อนประถมศึกษาอัตราการเก็บต่อคน/ภาคเรียน ไม่เกิน 17,500
บาท
2.ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอัตราเก็บ ต่อคน/ภาคเรียน ไม่เกิน 30,000 บาท
3.ระดับประถมศึกษา
อัตราเก็บต่อคน/ภาคเรียน ไม่เกิน
17,500 บาท
4.ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น อัตราการเก็บต่อคน/ภาคเรียนไม่เกิน17,500 บาท
1826 สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอน นอกเหนือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานโดย
ทำโครงการพัฒนาทักษะความถนัดของนักเรียนนอกเวลาเรียน สามารถขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายอัตราการเก็บต่อคน/ภาคเรียน
...ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและนักเรียน ตามข้อใดได้
1.
2,500 บาท
2.
1,300 บาท
3.
ไม่เกิน 17,500 บาท
4.
200 บาท
5.
ถูกทั้ง 1 -2 และ 4
1827.โครงการพัฒนาทักษะตามความถนัดของนักเรียน นอกเวลาเรียน
...จ้างครูชาวต่างประเทศ ..ค่าตอบแทนวิทยากรภายนอก และ ค่าเรียนปรับพื้นฐานความรู้ที่
สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนนักเรียนที่นอกเหนือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทุกรายการรวมกันจ่าย
กี่..บาทต่อภาคเรียน/ต่อคน ไม่ต้องต่อราคา
1.
ไม่น้อยกว่า 1,250 บาท
2.
1,300 บาท
3.
ไม่เกิน 17,500 บาท
4.
ไม่เกิน 1,250 บาท
5.
ถูกทั้ง 1 -2 และ 4
1828. สถานศึกษาต้องพิจารณาให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้อยโอกาสให้ได้เรียนโดยไม่รอนสิทธิ์ที่จะได้รับ
หากสถานศึกษามีการจัดให้นักเรียนทุกคนได้การเรียนกับครูชาวต่างประเทศ
ควรจัดให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสนั้นได้เรียนสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง
1.ไม่ต่ำกว่า
18 ชั่วโมง/ สัปดาห์
2.ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง/ สัปดาห์
3.ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง/ สัปดาห์
4.ไม่น้อยกว่า 15 ชั่วโมง/
สัปดาห์
1829. สถานศึกษาที่จัดให้มีการดูแลด้านสวัสดิการ
และสวัสดิภาพนักเรียน ดังนี้
ค่าประกันชีวิตนักเรียน /
ค่าประกันอุบัติเหตุนักเรียน ถ้าขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงโดยประหยัด
ต้องได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และได้รับอนุมัติจากหน่วยงานใด ก่อนจึงจะดำเนินการขอรับการสนับสนุนได้
1. สพฐ.
2.คณะกรรมการเขตพื้นที่
3.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
4. เลขาธิการ ..กพฐ.
1829.
แนวปฏิบัติการระดมทรัพยากรของสถานศึกษาเพื่อให้การระดมทรัพยากรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
สพฐ. จึงกำหนดหลักเกณฑ์ให้สถานศึกษาถือปฏิบัติข้อใดเป็นอันดับแรก
1.สถานศึกษาต้องศึกษาตาม
กฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง
2.การระดมทรัพยากรต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ
ตามความเหมาะสม และความจำเป็น
3.สถานศึกษาต้องแต่งตั้งคณะกรรมการระดมทรัพยากรของสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมและให้แรงจูงใจในการระดมทรัพยากร
4.สถานศึกษาต้องเสนอแผนและโครงการในการระดมทรัพยากรเพื่อขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
5.
สถานศึกษาต้องรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการระดมทรัพยากร ต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
1830. ประกาศ
สพฐ. เกณฑ์การประกวดหนังสือดีเด่นประจำปี 2558..ซึ่ง หนังสือสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12- 18 ปี มี 3
ประเภท ยกเว้นข้อใด
1. บันเทิงคดี
2. สารคดีน่ารู้
3.บทร้อยกรอง
4.สารคดี
1. บันเทิงคดี
2. สารคดีน่ารู้
3.บทร้อยกรอง
4.สารคดี
1831.เลขาธิการ. คุรุสภา คือใคร..
1.ดร.อำนวย สุนทรพจน์
2.ดร. อำนาจ. สุนทราวุฒิ
3.ดร. อำมาตย์ เสรีธรรม
4.ดร.อำนาจ สุนทรธรรม
1.ดร.อำนวย สุนทรพจน์
2.ดร. อำนาจ. สุนทราวุฒิ
3.ดร. อำมาตย์ เสรีธรรม
4.ดร.อำนาจ สุนทรธรรม
1832.ท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษาดำเนินงานโครงการระดมทรัพยากรและให้รายงานผลการดำเนินงานต่อใคร.
1.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.สพท.
4 อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
1.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.สพท.
4 อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
1833.ผู้ใดพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือ
คุ้มครองสวัสดิภาพจะต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและแจ้งต่อ.ใครโดยมิชักช้า
1.พนักงานเจ้าหน้าที่
2. ผู้อำนวยการเขต
3.ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ
5.ถูกทุกข้อที่กล่าว
1834.ใคร..พิจารณาให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์แก่เด็กและครอบครัวหรือบุคคลที่
อุปการะเลี้ยงดูเด็กเพื่อให้สามารถอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้
1.พนักงานเจ้าหน้าที่
2. ผู้อำนวยการเขต
3.ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ
5.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
1835. ใคร..พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์
1.พนักงานเจ้าหน้าที่
2. ปลัดกระทรวง และ ผู้ว่าราชการจังหวัด
3. ผู้อำนวยการเขต และ นายอำเภอ
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
5.
ถูกทั้ง 1-2 และ 3
1836.ใคร..พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ส่งเด็กเข้าศึกษาหรือฝึกหัดอาชีพ
หรือส่งเด็กเข้าบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพ หรือฝึกหัดอาชีพในสถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือส่งเด็กศึกษากล่อมเกลาจิตใจโดยใช้หลักศาสนาในวัดหรือสถานที่ทางศาสนาอื่น
ที่ยินยอมรับเด็กไว้
1.พนักงานเจ้าหน้าที่
2. ผู้ว่าราชการจังหวัด
3. ผู้อำนวยการเขต และ นายอำเภอ
4. ถูกทั้ง 1 และ 2
5.
ถูกทั้ง 1-2 และ 3
1837.ผู้อำนวยการเขต หรือ นายอำเภอพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ความยินยอมดังกล่าวต้องทำ
เป็นหนังสือ หรือยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานกี่..คนได้
1.อย่างน้อย 1 คน
2.อย่างน้อย 2 คน ( อย่างน้อย 2 คน )
3.อย่างน้อย 3 คน
4. 3 คน
5. ถูกทั้ง 2 และ 4
1838.ใคร..มีอำนาจกำหนดระยะเวลาในการสงเคราะห์เด็กส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในครอบครัวอุปถัมภ์หรือสถานรับเลี้ยงเด็กที่เหมาะสมแล้วแต่กรณี
1.พนักงานเจ้าหน้าที่
2. ผู้ว่าราชการจังหวัด
3. ผู้อำนวยการเขต
4. นายอำเภอ
5. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
1839. โฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศ เกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่
จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษ ตามข้อใดได้
1. จำคุก 1 ปี
2. ปรับ 5
,000 บาท
3.
จำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.
ถูกทั้ง 3 และ 2
5. ถูกทั้ง 1-2 และ 3
1840.หากท่านไปรับตำแหน่งใหม่ผู้บริหารสถานศึกษา
ถ้าหน่วยงานของท่านมีปัญหาเกี่ยวกับการบริหารครุและบุคลากรทางการศึกษา ท่านจะขอข้อคิดเห็นจากใครมากสุด
1.
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
2 . ครูสมใจนึก
หัวงานบริหารทั่วไป
3.ครูประครองคนในพื้นที่จิตใจดีงาม
4. คณะกรรมการสถานศึกษา
1840. ท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับครูและบุคลากรจัดทำโครงการพัฒนาจิตใจนักเรียนรักการอ่าน” และสิ่งที่จะส่งผลทำให้โครงการบรรลุความสำเร็จมากที่สุด
คือข้อใด
1. การเสริมสร้างพลังความแข็งแกร่งในการทางาน
2. บุคลากรและวัสดุอุปกรณ์พร้อมใช้ทุกอย่าง
3. ความสัมพันธ์ในทีมงาน
4 . เจตคติที่ดีต่อการทำงานร่วมกัน
1841.ครอบครัวอุปถัมภ์ หมายถึง
1.ครอบครัวทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
2.บุคคลที่รับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
3. ครอบครัวทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตรบุญธรรม
4.สถานที่ทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
1.ครอบครัวทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
2.บุคคลที่รับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
3. ครอบครัวทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตรบุญธรรม
4.สถานที่ทีรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
1842.
คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการใครไม่ได้ กรรมการโดยตำแหน่ง
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.เลขา ..กพฐ.
3.
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4. เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
5.
เป็นทุกข้อที่กล่าวมา
1843.
คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการใครไม่ได้ กรรมการโดยตำแหน่ง
1.
เลขาธิการสภาการศึกษาและอธิบดีกรมการแพทย์
2. อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ อธิบดีกรมสุขภาพจิต
3. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
4.
เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
5. เป็นทุกข้อที่กล่าวมา
1844..
ใครรักษาการตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
(ฉบับที่2) พ.ศ. 2556
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
5. ถูกต้องทุกที่กล่าวมา
1845.สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษานอกระบบ
หรือตามอัธยาศัยแก่คนพิการ ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต
และจัดการศึกษาอบรมแก่ผู้ดูแลคนพิการ ครู บุคลากรและชุมชน รวมทั้งการจัดสื่อ
เทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก หมายถึงความตามข้อใด
1.ศูนย์การศึกษาพิเศษ
2.สถานศึกษาเฉพาะความพิการ
3.ศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ
4.ศูนย์โอท็อป
1846.. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการใครเป็นประธาน
1.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
4. ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
1847. ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับมีอำนาจและหน้าที่รับตัวเด็กที่
เพื่อสืบเสาะและพินิจเด็กและครอบครัว วินิจฉัยกำหนดวิธีการที่เหมาะสมในการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กแต่ละคน
ถ้าจำเป็นอาจรับตัวเด็กไว้ปกครองดูแลชั่วคราวได้ตามข้อใด
1.ไม่เกิน 7 วัน ขยายเวลาออกไปได้ไม่เกิน 30 วัน
2. โดยมิชักช้า
3.ไม่เกิน 3 เดือน
4.ไม่เกิน 12 ชั่วโมง
1847.
“กองทุนคุ้มครอง เด็ก
ประกอบด้วย ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
1.เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือมอบให้
2.ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินกองทุน ( ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน)
3.เงินที่ริบจากเงินประกันของผู้ปกครองที่ผิดทัณฑ์บน
4.เงินอุดหนุนจากต่างประเทศ
1848.คณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครอง เด็ก ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เป็นประธาน และ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง
และ
ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งไม่เกินกี่…คน เป็นกรรมการ
1.ไม่เกิน 7 คน
2.ไม่เกิน
3 คน
3.ไม่เกิน 9 คน
4.ไม่เกิน 10 คน
1846.
.คณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครอง เด็ก ประกอบด้วย
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งไม่เกินสามคน
เป็นกรรมการ และใคร..กรรมการและเลขานุการ
1.เลขาธิการ กพฐ
2.รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
3.ผู้แทนสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
4.ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
1847.การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การจัดหาผลประโยชน์
และการจัดการกองทุน
ให้เป็นไปตามระเบียบที่ใคร..กำหนด
1.คณะกรรมการบริหารกองทุน
2.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
3.คณะรัฐมนตรี
4.กระทรวงการคลัง
1848.สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของกองทุนทุกรอบปีแล้วทำ
รายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนเสนอต่อใคร..ภายใน
150 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
1.คณะกรรมการบริหารกองทุน
2.คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
3.รัฐมนตรี
4.กระทรวงการคลัง
1889.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง..ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจ
ของเด็ก
2.จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิต
จนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
3. ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด
4.โฆษณาทางสื่อมวลชนหรือเผยแพร่ด้วยประการใด
เพื่อรับเด็กหรือยกเด็ก
ให้แก่บุคคลอื่นที่มิใช่ญาติของเด็ก
5.โฆษณาหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ
ชื่อเสียง เกียรติคุณ
1890.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง..ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.บังคับ ขู่เข็ญ หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน
2.ใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน
3.ใช้ จ้าง หรือวานเด็กให้ทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก่
ร่างกายหรือจิตใจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต
4.บังคับ ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กเล่นกีฬาอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโต
5. ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
1891.
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง..ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.โฆษณาหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง
โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ
2. ผู้ปกครองสวัสดิภาพ และผู้ปฏิบัติงานในสถานรับเลี้ยงเด็ก
และสถานพัฒนาและฟื้นฟู ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ กักขัง หรือลงโทษเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลโดยวิธีการรุนแรง
3.ขัดขวางไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ.เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใดๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้น
4.ไม่ยอมส่งเอกสารหรือส่งเอกสารโดยรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่
5. ไม่ถูกทั้ง 3
และ 4 ...ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน
10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1892.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง....ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.ขัดขวางไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ.เข้าไปในเคหสถาน
สถานที่ใดๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้น
2.ไม่ยอมส่งเอกสาร..หรือส่งเอกสารโดยรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่
หรือ.ผู้ใดจัดตั้งหรือดำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยมิได้รับใบอนุญาต
3. ไม่ยอมให้ถ้อยคำโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
4.ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการคุมความประพฤติ ห้ามเข้าเขต
กำหนด หรือ ไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่
5.ผู้ใดกระทำการอันเป็น การยุยง หรือสนับสนุนให้นักเรียนฝ่าฝืนไม่ต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนและตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
)
1893.ข้าราชการซึ่งลาเกินจำนวนครั้ง..ที่กำหนด
แต่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน
อาจพิจารณาผ่อนปรนให้เลื่อนขั้นเงินเดือนได้ ถ้าวันลาไม่เกินกี่วัน
1. 15 วัน
2. 15 วันทำการ
3.23 วันทำการ
4.23วัน
3.23 วันทำการ
4.23วัน
1894.จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้..
โดยให้ความสำคัญดังนี้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง ตามนโยบาย คณะรัฐมนตรี ด้านการศึกษา
1.การศึกษาในระบบและการศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้
พัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ
2.ประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้โดยมีความใฝ่รู้และทักษะที่เหมาะสม
3.เป็นคนดีมีคุณธรรม
4.สร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อสร้างสัมมาชีพ
ในพื้นที่
5.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
1894.โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อสร้างสัมมาชีพในพื้นที่
ลดความเหลื่อมล้า และพัฒนากำลังคนให้เป็นที่ต้องการเหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งในด้านการเกษตร
อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ ..กล่าวถึงตามข้อใด
ของ..นโยบาย คณะรัฐมนตรี ด้านการศึกษา..
1.จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้
2.ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน
3.การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน
4. การศึกษาในระบบและ นอกระบบเพื่อ เป็นการศึกษาทางเลือก
1895.ในระยะเฉพาะหน้า
จะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษาให้สอดคล้องกับความเป็นเจ้าของผู้เรียน
และลักษณะพื้นที่ของสถานศึกษา และปรับปรุงและบูรณาการระบบการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อให้เป็นไปตาม..ข้อใด .. ( ของ
นโยบาย คณะรัฐมนตรี ด้านการศึกษา..)
1.เพื่อเพิ่มโอกาสแก่ผู้ยากจน
2.เพื่อเพิ่มโอกาสแก่ด้อยโอกาส
3.
จัดระบบการสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีสิทธิเลือกรับบริการการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกโรงเรียน
4.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
1896.ให้องค์กรภาคประชาสังคม
ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และประชาชนทั่วไปมีโอกาสร่วมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ
และทั่วถึง และร่วมในการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้..ของ นโยบาย คณะรัฐมนตรี ด้านการศึกษา ข้อใดถูกต้อง
1.การศึกษาและเรียนรู้
การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
2.เร่งรัดปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.เร่งพัฒนาความแข็งแกร่งทางการศึกษา
4.เร่งปรับระบบสนับสนุนการจัดการศึกษา
1897.กระจายอำนาจการบริหารจัดการศึกษาสู่สถานศึกษา
เขตพื้นที่การศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามศักยภาพและความพร้อม โดยให้สถานศึกษาสามารถเป็นนิติบุคคลและบริหารจัดการได้อย่างอิสระและคล่องตัวขึ้นของ
นโยบาย คณะรัฐมนตรี ด้านการศึกษา ข้อใดถูกต้อง
1.การศึกษาและเรียนรู้
การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
2.เร่งรัดปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3.เร่งพัฒนาความแข็งแกร่งทางการศึกษา
4.เร่งปรับระบบสนับสนุนการจัดการศึกษา
1898.
ก.ค.ศ
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ หลักเกณฑ์ให้ผู้ดำเนินการคัดเลือก..หมายความ
ถึงตามข้อใด
1. ก.ค.ศ
2. อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
3. สพท.
4. อ.ก.ค.ศ ที่ ก.ค.ศ
แต่งตั้ง
5.
ถูกทั้ง 2 และ 4
1899.
อ.ก.ค.ศ
เขตพื้นที่การศึกษาอาจคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ
อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ หลักเกณฑ์ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
1.มีสัญญาผูกผันตามโครงการสัญญาพิเศษ
หรือโครงการนักเรียนทุนรัฐบาล
2.ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันไม่น้อยกว่าสองครั้งแล้ว
ไม่มีผู้สมัคร
3.ดำเนินการสอบแข่งขันไม่น้อยกว่าสองครั้งแล้ว
ได้จำนวนคนไม่เพียงพอกับตำแหน่งว่างที่บรรจุและแต่งตั้งตามที่ประกาศ
4.มีมติคณะรัฐมนตรี หรือทางราชการมีเงื่อนไขให้รับโอนโรงเรียนเอกชน
มาเป็นโรงเรียนรัฐบาล
5.การบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ไปดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่เป็นเกาะที่สามารถเดินทางด้วยพาหนะใดๆได้สะดวกตลอดปี ( ไม่สมารถ )
1900.หลักเกณฑ์..สำหรับผู้เข้ารับการคัดเลือก..กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ
ถ้าครูอัตราจ้างหรือลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณหรือเงินรายได้สถานศึกษาต้องได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติหน้าที่การสอน
ตามคำสั่งหรือสัญญาจ้างอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน ตามระยะเวลาตามข้อใด..
นับถึงวันสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย
1. ไม่ต่ำกว่า 3 ปีงบประมาณ
2.
ไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. อย่างต่ำ 3 ปี
4. ไม่เกิน 3 – 5 ปี
ขอบคุณ ผอ.สมบัติ พันธ์โพธิ์คา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น