วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ประเด็นเสนอแนะสำหรับการปรับแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ #5/6



ประเด็นเสนอแนะสำหรับการปรับแก้ไข พรบ.การศึกษาแห่งชาติ:
ประเด็นที่ ๕ การปรับเปลี่ยนคำเรียกบุคลาการการศึกษา
นำเสนอ คณะทำงานยกร่างฯ กมธ.การศึกษาฯ สนช
ผ่าน ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ ประธานที่ประชุมคณบดีศึกษาศาสตร์
โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ศาสตราจารย์ ระดับ ๑๑
นายกสมาคมเทคโนโลยีการศึกษาแห่งประเทศไทย
ประเด็นที่ ๕
การปรับเปลี่ยนคำเรียกบุคลาการการศึกษา
สาระสำคัญ
ครู อาจารย์ ก็เป็นบุคลากร ส่วนผู้ที่ไม่ได้ทำหน้าที่สอน ที่เป็นสายสนับสนุน ควรเรียกเจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ดังนั้น การเรียกชื่อว่า ครู คณาจารย์ และบุคลาการการศึกษา แสดงว่า ครูและอาจารย์ ไม่ใช่บุคลากร ถือว่า เป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนคำว่า คณาจารย์ (คณะอาจารย์=คณาจารย์ หมายถึงอาจารย์หลายคน) ควรเปลี่ยน อาจารย์ไม่ควรยึดฝรั่ง คือคำว่า Staff จนทำให้ภาษาไทยเสียไป โดยลากคำฝรั่งมาใช้ เพราะอาจารย์เป็นเอกพจน์ ส่วนคณาจารย์เป็นพหูพจน์
นอกจากนี้ การเรียกนักบริหารการศึการ เป็น "ผู้บริหารสถานศึกษา" และ "ผู้บริหารการศึกษา" เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Institutional Administrators และ บอกว่าต่างจาก Educational Administrators ฝรั่งคงจะงง ไม่น่าจะเป็นสากล หากเรียก "นักบริหารการศึกษา" น่าจะถูกต้องมากกว่า ส่วนการจะแต่งตั้งให้เป็น ผู้บริหารอะไร ก็แล้วแต่ข้อบังคับที่จะต้องกำหนดในภายหลัง
อนึ่ง ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ผู้เขียนไม่เคยเห็นประเทศไหนในโลก เรียกผู้บริหารโรงเรียนว่า "ผู้อำนวยการ" คำที่ถูกต้อง เหมาะสม คือ ระดับประถมศึกษา น่าจะเรียก ครูใหญ่ (Head Master) และ ระดับมัธยมศึกษาน่าจะเรียก อาจารย์ใหญ่ (Principal) นี่ก็แล้วแต่ เพราะคำว่า ผู้อำนวยการ หรือ ผอ. ดูดี และผู้บริหารโรงเรียนทั้งหมดตอนนี้ ก็เป็น ผอ. หมดแล้ว หากจะเปลี่ยนให้ถูกต้องเป็น ครูใหญ่ หรือ อาจารย์ใหญ่ ไม่ทราบท่านจะเห็นด้วยหรือไม่
แนวทางปรับ พรบ.
ขอเสนอให้ปรับชื่อหมวดและทุกมาตราให้ใช้คำเรียกว่า บุคลากรทางการศึกษา" หรือ "ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ในมาตรา ๕๒ และมาตราอื่น ในหมวดที่ ๗ จาก ครู คณาจารย์ และบุคลากรเป็น "บุคลากรทางการศึกษา" หรือ ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่
หมวด ๗
บุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๕๒ ให้กระทรวงส่งเสริมให้มีระบบ กระบวนการผลิต การพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง โดยการกำกับและประสานให้สถาบันที่ทำหน้าที่ผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความพร้อมและมีความเข้มแข็งในการเตรียมบุคลากรใหม่และการพัฒนาบุคลากรประจาการอย่างต่อเนื่อง
ให้บุคลากรทางการศึกษาประกอบด้วย ครู อาจารย์ นักวิจัย นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และอาจมีบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามความเหมาะสม
ให้สถาบันผลิตบุคลากรทางการศึกษา มีองค์ประกอบ ๓ ส่วนคือ (๑) คณะการศึกษา (Faculty of Education) เพื่อผลิตครู อาจารย์ และนักบริหารการศึกษา (๒) คณะวิทยาการการศึกษา (Faculty of Educational Science) เพื่อสอนเนื้อหาสาระวิชาการต่างๆ สำหรับให้ครู อาจารย์ นำไปสอนและถ่ายทอดให้นักเรียน นิสิตและนักศึกษาในและนอกชั้นเรียน และ (๓) คณะเทคโนโลยีการศึกษา (Faculty of Educational Technology) สำหรับผลิตนักเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา เพื่อทำหน้าที่ออกแบบระบบ พัฒนาวิธีการการเรียนการสอน พัฒนาสื่อการศึกษา พัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษา จัดการองค์ความรู้และระบบการจัดการ และพัฒนาระบบการวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์
ให้สถานศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา กำหนดอัตรากำลังและบรรจุบุคลากรการศึกษาประเภทครู อาจารย์ นักวิจัย นักบริหารการศึกษา นักเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ที่มีจำนวนเพียงพอกับขนาดสถานศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดสรรงบประมาณและจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา นักเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างเพียงพอ
มาตรา ๕๓ ให้มีองค์กรวิชาชีพการศึกษาเพื่อกำกับดูแลกำหนดมาตรฐานครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา นักเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น มีฐานะเป็นองค์กรอิสระภายใต้การบริหารของสภาวิชาชีพ ในกำกับของกระทรวง มีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ และการพัฒนาวิชาชีพการศึกษาทุกประเภท
ให้ครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่นทั้งของรัฐและเอกชนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด
การจัดให้มีองค์กรวิชาชีพอาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ความในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่บุคลากรทางการศึกษาที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย สถานศึกษาตามมาตรา๑๘ (๓) ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษาและวิทยากรพิเศษทางการศึกษา
ความในมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่ อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา บรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่นในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญา
มาตรา ๕๔ ให้มีองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น โดยให้ครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งของหน่วยงานทางการศึกษาในระดับสถานศึกษาของรัฐ และระดับเขตพื้นที่การศึกษาเป็นข้าราชการในสังกัดองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู โดยยึดหลักการกระจายอำนาจการบริหารงานบุคคลสู่เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
มาตรา ๕๕ ให้มีกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น สำหรับข้าราชการครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น เพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอและเหมาะสมกับฐานะทางสังคมและวิชาชีพ
ให้มีกองทุนส่งเสริมครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น เพื่อจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนงานริเริ่มสร้างสรรค์ ผลงานดีเด่น และเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๕๖ การผลิตและพัฒนาอาจารย์ นักบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและสื่อการศึกษา นักวัดและประเมินการศึกษา นักจิตวิทยาการศึกษา นักแนะแนวการศึกษา นักบริการการศึกษา และบรรณารักษ์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่น การพัฒนา มาตรฐาน และจรรยาบรรณของวิชาชีพ และการบริหารงานบุคคลของข้าราชการหรือพนักงานของรัฐในสถานศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษาแต่ละแห่งและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๕๗ ให้หน่วยงานทางการศึกษาระดมทรัพยากรบุคคลในชุมชนให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยนำประสบการณ์ ความรอบรู้ ความชำนาญ และภูมิปัญญาท้องถิ่นของบุคคลดังกล่าวมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาและยกย่องเชิดชูผู้ที่ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา

ที่มา โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ศาสตราจารย์ ระดับ ๑๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น