วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Roadmap ระยะเร่งด่วน (ปี 2558) ได้กำหนดไว้ 9 เรื่อง ดังนี้
  • ปรับหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ ตลอดจนถึงระบบวัด ประเมินผล และการคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับต่างๆ ต้องสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคนของประเทศ และการพัฒนาผู้เรียนในแต่ละช่วงวัยด้วย โดยเฉพาะการปรับหลักสูตร ลดเวลาเรียน ลดการเรียนวิชาที่ไม่มีความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้เด็กมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมเกี่ยวกับทักษะชีวิต ตลอดจนค่านิยมหลัก 12 ประการ เพื่อให้เด็กสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ในส่วนของระบบการประเมินผลและการศึกษาต่อในแต่ละช่วงชั้น จะปรับให้สอดคล้องกับหลักสูตรและการเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาคนอย่างรอบด้าน
  • ปรับภาพลักษณ์อาชีวศึกษา เพื่อให้มีสุภาพชนคนอาชีวะ สร้างค่านิยม ยกระดับมาตรฐานอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอาชีพและท้องถิ่น
  • ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ได้ข้อค้นพบที่จะนำไปสู่การพัฒนาบัณฑิตของแต่ละมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ตลอดจนผลิตและพัฒนาอาจารย์ระดับปริญญาเอก
  • ปรับโครงสร้างของ ศธ. เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการกระจายอำนาจสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา และส่งเสริมการมีส่วนร่วม โดยส่วนกลางมีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนเท่านั้น และในส่วนของพื้นที่จะเป็นผู้ทำงาน รวมทั้งประเด็นการแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งมีเหตุผลเนื่องมาจากการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีปรัชญาและแนวทางแตกต่างจากการจัดการศึกษาระดับพื้นฐาน เพื่อความคล่องตัวและอิสระ โดยในส่วนของรายละเอียดจะต้องให้ สกอ. เป็นผู้นำเสนอกฎหมายขึ้นมา
  • การได้มาซึ่งครูและอาจารย์ที่ดีและเก่งในถิ่นทุรกันดาร  ทั้งในระดับการศึกษาพื้นฐาน จนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งส่งผลไปสู่การปรับระบบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของครูด้วย
  • การได้มาซึ่งผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาในคณะกรรมการและองค์คณะบุคคลในระดับต่างๆ ทั้งในระดับชาติ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับสถานศึกษา เพื่อให้สามารถเป็นตัวแทนของครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การส่งเสริมการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
  • การปรับระบบเงินอุดหนุนรายหัว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ เพราะที่ผ่านมา ศธ.จัดเงินอุดหนุนรายหัวให้นักเรียนทุกคนตามกฎหมาย และตามที่กฤษฎีกาตีความว่า “เห็นควรจะต้องได้รับในอัตราที่เท่ากัน” แต่ในความเป็นจริง นักเรียนมีความต้องการไม่เท่ากัน  ดังนั้น ศธ.จึงยึดหลักในการพิจารณา 3 ด้าน คือ 1) หลักความเสมอภาค กล่าวคือ ในส่วนหนึ่งจะต้องจัดเงินอุดหนุนในอัตราพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับการสนับสนุนที่เท่าๆ กัน  2) หลักความเป็นธรรม  เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่มีความต้องการมากกว่า และนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งก็มีศักยภาพอย่างพอเพียง ซึ่งอาจจะมีความต้องการน้อยกว่าหรือไม่ต้องการเลยก็เป็นไปได้  ฉะนั้นในเรื่องของความเป็นธรรม คนที่มีความต้องการมากกว่า ก็ควรจะได้รับการสนับสนุนมากกว่า เช่น นักเรียนที่ยากจน หรืออยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เด็กด้อยโอกาส 3)  หลักความพอเพียง  คือ เมื่อให้ไปแล้วต้องมีความพอเพียง และรับประกันได้ว่าจะพอเพียงต่อการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
  • แผนแม่บทการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTเพื่อการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่จะต้องปรับปรุงให้มีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด
เป้าหมาย Roadmap
  • สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษากับสายสามัญ ในปี 2564 เพิ่มเป็น 50:50 และในปี 2569 เพิ่มเป็น 60:40
  • สัดส่วนการจัดการศึกษาภาครัฐกับเอกชน เพิ่มขึ้นจาก 80 : 20 เป็น 70:30 ในปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 65:35 ในปี 2569
  • ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) จะต้องเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ในทุกสาขาวิชา
  • อัตราการเรียนต่อ มีผู้จบการศึกษาภาคบังคับร้อยละ 100 กล่าวคือ ทุกคนต้องจบการศึกษาภาคบังคับ
  • อัตราการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ต้องเป็น 0
กลไก
  • การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่
  • การจัดทำแผนพัฒนาคน 5 ช่วงวัย ตามแผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • การตั้งคณะกรรมการหลักสูตรและการเรียนรู้แห่งชาติ และในระยะยาวอาจจะจัดตั้งสถาบันหลักสูตร เนื่องจาก ศธ.ไม่มีหน่วยงานเกี่ยวกับวิชาการ มีเพียงสำนักวิชาการในสังกัด สพฐ.เท่านั้น
  • การส่งเสริมการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการศึกษาทางเลือก จะต้องมีการขยาย/นำร่องรูปแบบการศึกษาที่ดี
  • คณะกรรมการในระดับจังหวัด เพื่อดูแลเกี่ยวกับความต้องการกำลังคน การจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับกลุ่มจังหวัด/จังหวัด
ทั้งนี้ จะนำเสนอร่าง Roadmap ให้ที่ประชุมองค์กรหลักพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2557 จากนั้นก็จะนำเสนอต่อหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่เกี่ยวข้อง  และเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น