Roadmap ระยะเร่งด่วน (ปี 2558) ได้กำหนดไว้ 9 เรื่อง ดังนี้
- ปรับหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ ตลอดจนถึงระบบวัด ประเมินผล และการคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับต่างๆ ต้องสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคนของประเทศ และการพัฒนาผู้เรียนในแต่ละช่วงวัยด้วย โดยเฉพาะการปรับหลักสูตร ลดเวลาเรียน ลดการเรียนวิชาที่ไม่มีความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้เด็กมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมเกี่ยวกับทักษะชีวิต ตลอดจนค่านิยมหลัก 12 ประการ เพื่อให้เด็กสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ในส่วนของระบบการประเมินผลและการศึกษาต่อในแต่ละช่วงชั้น จะปรับให้สอดคล้องกับหลักสูตรและการเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาคนอย่างรอบด้าน
- ปรับภาพลักษณ์อาชีวศึกษา เพื่อให้มีสุภาพชนคนอาชีวะ สร้างค่านิยม ยกระดับมาตรฐานอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอาชีพและท้องถิ่น
- ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ได้ข้อค้นพบที่จะนำไปสู่การพัฒนาบัณฑิตของแต่ละมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ตลอดจนผลิตและพัฒนาอาจารย์ระดับปริญญาเอก
- ปรับโครงสร้างของ ศธ. เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการกระจายอำนาจสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา และส่งเสริมการมีส่วนร่วม โดยส่วนกลางมีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนเท่านั้น และในส่วนของพื้นที่จะเป็นผู้ทำงาน รวมทั้งประเด็นการแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งมีเหตุผลเนื่องมาจากการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีปรัชญาและแนวทางแตกต่างจากการจัดการศึกษาระดับพื้นฐาน เพื่อความคล่องตัวและอิสระ โดยในส่วนของรายละเอียดจะต้องให้ สกอ. เป็นผู้นำเสนอกฎหมายขึ้นมา
- การได้มาซึ่งครูและอาจารย์ที่ดีและเก่งในถิ่นทุรกันดาร ทั้งในระดับการศึกษาพื้นฐาน จนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งส่งผลไปสู่การปรับระบบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของครูด้วย
- การได้มาซึ่งผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาในคณะกรรมการและองค์คณะบุคคลในระดับต่างๆ ทั้งในระดับชาติ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับสถานศึกษา เพื่อให้สามารถเป็นตัวแทนของครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การส่งเสริมการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
- การปรับระบบเงินอุดหนุนรายหัว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ เพราะที่ผ่านมา ศธ.จัดเงินอุดหนุนรายหัวให้นักเรียนทุกคนตามกฎหมาย และตามที่กฤษฎีกาตีความว่า “เห็นควรจะต้องได้รับในอัตราที่เท่ากัน” แต่ในความเป็นจริง นักเรียนมีความต้องการไม่เท่ากัน ดังนั้น ศธ.จึงยึดหลักในการพิจารณา 3 ด้าน คือ 1) หลักความเสมอภาค กล่าวคือ ในส่วนหนึ่งจะต้องจัดเงินอุดหนุนในอัตราพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับการสนับสนุนที่เท่าๆ กัน 2) หลักความเป็นธรรม เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่มีความต้องการมากกว่า และนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งก็มีศักยภาพอย่างพอเพียง ซึ่งอาจจะมีความต้องการน้อยกว่าหรือไม่ต้องการเลยก็เป็นไปได้ ฉะนั้นในเรื่องของความเป็นธรรม คนที่มีความต้องการมากกว่า ก็ควรจะได้รับการสนับสนุนมากกว่า เช่น นักเรียนที่ยากจน หรืออยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เด็กด้อยโอกาส 3) หลักความพอเพียง คือ เมื่อให้ไปแล้วต้องมีความพอเพียง และรับประกันได้ว่าจะพอเพียงต่อการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
- แผนแม่บทการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่จะต้องปรับปรุงให้มีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด
เป้าหมาย Roadmap
- สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษากับสายสามัญ ในปี 2564 เพิ่มเป็น 50:50 และในปี 2569 เพิ่มเป็น 60:40
- สัดส่วนการจัดการศึกษาภาครัฐกับเอกชน เพิ่มขึ้นจาก 80 : 20 เป็น 70:30 ในปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 65:35 ในปี 2569
- ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) จะต้องเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ในทุกสาขาวิชา
- อัตราการเรียนต่อ มีผู้จบการศึกษาภาคบังคับร้อยละ 100 กล่าวคือ ทุกคนต้องจบการศึกษาภาคบังคับ
- อัตราการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ต้องเป็น 0
กลไก
- การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่
- การจัดทำแผนพัฒนาคน 5 ช่วงวัย ตามแผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- การตั้งคณะกรรมการหลักสูตรและการเรียนรู้แห่งชาติ และในระยะยาวอาจจะจัดตั้งสถาบันหลักสูตร เนื่องจาก ศธ.ไม่มีหน่วยงานเกี่ยวกับวิชาการ มีเพียงสำนักวิชาการในสังกัด สพฐ.เท่านั้น
- การส่งเสริมการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการศึกษาทางเลือก จะต้องมีการขยาย/นำร่องรูปแบบการศึกษาที่ดี
- คณะกรรมการในระดับจังหวัด เพื่อดูแลเกี่ยวกับความต้องการกำลังคน การจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับกลุ่มจังหวัด/จังหวัด
ทั้งนี้ จะนำเสนอร่าง Roadmap ให้ที่ประชุมองค์กรหลักพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2557 จากนั้นก็จะนำเสนอต่อหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่เกี่ยวข้อง และเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น