30 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
1. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ไม่ใช่บังคับองค์กรหรือหน่วยราชการตามข้อใด ก. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ข. การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ค. การดำเนินกิจการทางศาสนา ง. ถูกทุกข้อ 2. ข้อใดเป็นคำสั่งทางปกครอง ก. คำสั่งของเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมายในการสั่งและมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ข. การอนุญาตหรือไม่อนุญาตอันก่อให้เกิดสิทธิหรือระงับซึ่งสิทธิของบุคคล ค. การวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่อันมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ง. ถูกทุกข้อ 3. คำว่า "กฎ" ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หมายถึงข้อใด ก. พระราชกฤษกา ข. กฎกระทรวง ค. ประกาศกระทรวง และข้อบังคับท้องถิ่น ง. ถูกทุกข้อ 4. บุคคลตามข้อใดเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ง. อธิบดีกรมการปกครอง 5. บุคคลตามข้อใดเป็นประธานในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ค. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ง. บุคคลซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง 6. ผู้ดำรงตำแหน่งประธานในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ต้องเป็นบุคคลตามข้อใด ก. เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข. ต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ค. ต้องเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในทางนิติศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ บริหารราชการแผ่นดิน ง. ต้องอายุไม่เกิน 50 ปีบริบูรณ์ 7. ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีการปฏิบัติราชการทางปกครอง กำหนดจำนวนไว้ตามข้อใด ก. ไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน ข. ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน ค. ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ง. ไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 9 คน 8. บุคคลข้อใดที่ทำตามหน้าที่เลขานุการในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ก. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ข. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ค. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่งตั้ง ง. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง 9. กรรมการในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละกี่ปี ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี 10. หน่วยงานที่ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง คือหน่วยงานในข้อใด ก. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ข. สำนักงานคณะกรรมการรัฐมนตรี ค. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ง. กรมการปกครอง 11. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ก. สอดส่องดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ข. เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ ค. พิจารณาคดีทางการปกครอง ง. จัดทำรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เสนอนายกรัฐมนตรี 12. เจ้าหน้าที่ตามข้อใดทำการพิจารณาทางปกครองได้ ก. เป็นคู่กรณีในคดี ข. เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ หรือเป็นนายจ้างของคู่กรณี ค. เป็นผู้บังคับบัญชาของคู่กรณี ง. เป็นผู้บังคับบัญชาของคู่กรณีในคดี 13. บุคคลตามข้อใดเป็นคู่กรณีในการพิจารณาปกครองได้ ก. บุคคลธรรมดา ข. คณะบุคคล ค. นิติบุคคล ง. ถูกทุกข้อ 14. บุคคลตามข้อใดเป็นตัวแทนร่วมของคู่กรณี ในกรณีที่มีคู่กรณีเกิน 50 คนยื่นคำขออย่างเดียวกันได้ ก. บุคคลธรรมดา ข. คณะบุคคล ค. นิติบุคคล ง. ถูกทุกข้อ 15. กรณีที่คำขอหรือคำแถลงของคู่กรณีในการพิจารณาทางปกครอง มีข้อบกพร่องอันเกิดจากความไม่รู้ของคู่กรณี เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามข้อใด ก. ให้จำหน่ายเรื่องออกการพิจารณา ข. ให้เจ้าหน้าที่แนะนำให้คู่กรณีแก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้อง ค. ให้เจ้าหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้อง ง. ให้พิจารณาไปตามข้อเท็จจริงเพียงเท่าที่มีอยู่ 16. ในการพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ตามข้อใด ก. สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงตามความเหมาะสม ข. ไม่ผูกพันอยู่กับคำขอของคู่กรณี ค. ไม่ต้องผูกพันกับพยานหลักฐานของคู่กรณี ง. ถูกทุกข้อ 17. ในการจัดพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการตามข้อใด ก. แสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ข. ขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ค. ออกไปตรวจสถานที่ ง. ถูกทุกข้อ 18. การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามข้อใดไม่ถูกต้องในกรณีที่คำสั่งทางการปกครองจะกระทบถึงสิทธิของคู่กรณี ก. เจ้าหน้าที่ให้คู่กรณีมีโอกาสได้ทราบข้อเท็จจริง และมีโอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตน ข. เจ้าหน้าที่ไม่ให้โอกาสคู่กรณีทราบข้อเท็จจริงเนื่องจากเป็นมาตรการบังคับทางการปกครอง ค. เจ้าหน้าที่ให้โอกาสคู่กรณีโต้แย้งพยานหลักฐานถึงแม้ว่าจะก่อให้เกิดผลเสีย หายอย่างร้ายต่อประโยชน์ สาธารณะ ง. เจ้าหน้าที่ไม่ให้โอกาสคู่กรณีได้ทราบข้อเท็จจริงเนื่องจากจะทำให้ระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนดไว้ในการทำ คำสั่งทางปกครองต้องล่าช้าออกไป 19. คู่กรณีมีสิทธิขอตรวจดูเอกสารที่จำเป็นต้องรู้เพื่อการโต้แย้งสิทธิหรือชี้ แจงหรือป้องกันสิทธิของตนได้ การขอ ดังกล่าวไม่รวมถึงการขอในข้อใด ก. ขอตรวจดูเอกสารต้นร่างคำวินิจฉัย ในขณะที่ยังไม่ได้ทำคำสั่งทางปกครอง ข. ขอสำเนาเอกสารที่เป็นพยานหลักฐานทั้งหมด ค. ขอดูหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ ง. มีสิทธิขอดูได้ทุกกรณี 20. รูปแบบคำสั่งทางการปกครองในข้อใดไม่ถูกต้อง ก. ทำเป็นหนังสือ ข. เป็นคำสั่งด้วยวาจาก็ได้ ค. สั่งทางจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ ง. คำสั่งทางปกครองอาจใช้รูปแบบได้ทั้งข้อ ก , ข และข้อ ค 21. ในกรณีคำสั่งทางปกครองเป็นคำสั่งด้วยวาจา ถ้าผู้รับสั่งร้องขอภายในกี่วันนับแต่วันมีคำสั่งเจ้าหน้าที่ต้องยืนยันคำ สั่งนั้นเป็นหนังสือ ก. 3 วัน ข. 5 วัน ค. 7 วัน ง. 15 วัน 22. เหตุผลที่ต้องจัดให้มีไว้ในคำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือ คือข้อใด ก. ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข. กฎหมายที่ใช้อ้างอิง ค. ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลยพินิจ ง. ต้องมีเหตุผลทั้งในข้อ ก ข และ ค 23. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง ก. ให้คู่กรณีอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองต่อเจ้าหน้าที่ทำคำสั่งภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ข. การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองสามารถอุทธรณ์ด้วยวาจาได้ ค. การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ง. เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาคำอุทธรณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์ภายในไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับการอุทธรณ์ 24. ในการพิจารณาอุทธรณ์ เจ้าหน้าที่มีอำนาจพิจารณาในประเด็นตามข้อใด ก. พิจารณาในประเด็นปัญหาข้อเท็จจริง ข. พิจารณาประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย ค. พิจารณาความเหมาะสมของการทำคำสั่งทางการปกครอง ง. ถูกทุกข้อ 25. การเพิกถอนคำสั่งทางการปกครองที่มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์ต้องกระทำภายในกี่วันนับแต่ได้รู้ถึงเหตุ ที่จะให้เพิกถอนคำสั่งทางการปกครองนั้น ก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 90 วัน ง. 120 วัน 26. เมื่อคู่กรณีมีคำขอ เจ้าหน้าที่อาจเพิกถอนหรือแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งทางปกครองที่พ้นกำหนดอุทธรณ์ ก. มีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นข้อยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ข. คู่กรณีที่แท้จริงไม่ได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาทางปกครองหรือได้เข้ามาในกระบวนการ ค. เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจที่จะทำคำสั่งทางการปกครอง ง. ถูกทุกข้อ 27. คำสั่งทางปกครองที่กำหนดใช้ชำระเงิน ถ้าถึงกำหนดแล้วไม่มีการชำระโดยถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือนให้ชำระภายในเวลาที่กำหนด โดยจะต้องให้มีเวลาไม่น้อยกว่ากี่วัน ก. 7 วัน ข. 15 วัน ค. 30 วัน ง. 45 วัน 28. คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ละเว้นการกระทำ ถ้าผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่อาจบังคับให้ไป ชำระค่าปรับทางปกครองได้ โดยจำนวนเงินที่กำหนดต้องไม่เกินอัตราตามข้อใด ก. 500 บาทต่อวัน ข. 1,000 บาทต่อวัน ค. 2,000 บาทต่อวัน ง. 20,000 บาทต่อวัน 29. ก่อนใช้มาตรการบังคับทางปกครอง เจ้าหน้าที่จะต้องมีคำเตือนเป็นหนังสือให้มีการกระทำหรือละเว้นการ กระทำตามคำสั่งทางปกครองภายในระยะเวลาที่กำหนด คำเตือนดังกล่าวจะต้องระบุตามข้อใด ก. มาตรการบังคับทางการปกครองที่จะใช้ ข. ค่าใช้จ่ายในการที่เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการด้วยตนเอง ค. จำนวนค่าปรับทางปกครอง ง. ถูกทุกข้อ 30. การแจ้งคำสั่งทางปกครองโดยวิธีส่งทางไปรณีย์ตอบรับ ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกำหนดเวลาตามข้อใด ก. 5 วันนับแต่ส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือ 7 วันนับแต่วันที่ส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ ข. 7 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือ 15 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ ค. 15 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือ 30 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ ง. 20 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือ 45 วันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ
เฉลยแนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติระเบียบการปกครอง พ.ศ. 2539 1. ง 2. ง 3. ง 4. ก 5. ง 6. ค 7. ค 8. ค 9. ข 10. ก 11. ค 12. ค 13. ง 14. ก 15. ข 16. ง 17. ง 18. ค 19. ก 20. ง 21. ค 22. ง 23. ข 24. ง 25. ค 26. ง 27. ก 28. ง 29. ง 30. ข
ขอบคุณ: ประพันธ์ เวารัมย์
|
วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
30 แนววิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น