วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

50ข้อมูลข่าวสาร

พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการพ.. 2540
………………………………………………………………
1. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์และคุณค่าของ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540
          ก. ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจการของรัฐและส่วนรวม
          ข. ช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบการเมืองและระบบการบริหารของประเทศให้มีความโปร่งใส
          ค. ช่วยให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมในการพิทักษ์สิทธิของตน
ง.       ถูกทุกข้อ
2. ข้อใดเป็นเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ก. เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ข่าวสารของทางราชการ
ข. เพื่อกำหนดข้อยกเว้นในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจน
ค. เพื่อคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
ส่วนบนของฟอร์ม
2. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 มีผลบังคับตามข้อใด
. วันที่ 10 กันยายน 2540                         
. วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา    
. วันพ้นกำหนด 90 วัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 ประกาศใช้เมื่อใด
          ก. 10 กันยายน 2540                      ข. 11 กันยาน 2540
          ค. 9 ธันวาคม 2540                        ง. 10 ธันวาคม 2540
4. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 บังคับใช้เมื่อใด
          ก. 10 กันยายน 2540                      ข. 11 กันยาน 2540
          ค. 9 ธันวาคม 2540                        ง. 10 ธันวาคม 2540
5. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 มีทั้งหมดกี่หมวดกี่มาตรา
ก.      7 หมวด 40 มาตรา                    ข. 7 หมวด 41 มาตรา
ค. 7 หมวด 42 มาตรา                      ง. 7 หมวด 43 มาตรา
6. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. ประธานสภาผู้แทนราษฎร

7. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นหน่วยงานอยู่ในส่วนราชการใด
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ
ง. รัฐสภา
8. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ข้อมูลข่าวสาร หมายความรวมถึง สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราว ข้อมูล ด้วยการบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์
          ข. ข้อมูลข่าวสารของราชการ หมายความรวมถึง ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชนที่อยู่ในความครอบครองของรัฐ
            ค. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล หมายความถึง ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของรัฐ
          ง. เจ้าหน้าที่ของรัฐ หมายถึง ผู้ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ
9. หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารประเภทใด ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก.     โครงสร้าง และการจัดองค์การในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
ข.      รายชื่อ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐ
ค.      คำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานภายในส่วนราชการ
ง.       งบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ
10. ข้อใดไม่ใช่ข่าวสารประเภทที่หน่วยงานของรัฐต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้
ก. ผลการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐที่มีผลต่อเอกชน
ข. คู่มือการปฏิบัติงานของราชการ
ค. มติคณะรัฐมนตรี หรือมติคณะกรรมการแต่งตั้งโดยกฎหมาย
ง. แผนงาน โครงการและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการ
11. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ส่งข้อมูลข่าวสารของราชการลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ข. จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนตรวจดู
ค. จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอในเวลาอันสมควร
ง. จัดทำสำเนาและรับรองข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนทุกครั้งตามประสงค์ที่ขอ
12. ข้อใดไม่ใช่ "หน่วยงานของรัฐ" ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ราชการส่วนท้องถิ่น
ข. หน่วยงานอิสระของรัฐ
ค. รัฐวิสาหกิจ
ง. ศาลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี

13. ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบต่อการกระทำดังกล่าว
มีสิทธิดำเนินการอย่างไร
ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ฟ้องร้องต่อศาล
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
14. ข้อใดเป็นข่าวสารที่กำหนดว่าห้ามเปิดเผย
ก. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ข. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ค. ข่าวสารที่อาจให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ถูกทุกข้อ
15. ข้อใดเป็นข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผย
ก.      ข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข.      ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใด
บุคคลหนึ่ง
ค.      ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ง.       ถูกเฉพาะข้อ ข และ ค
16. องค์กรใดมีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวิชาการและธุรการ ปฏิบัติงานทั่วไปเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
. คณะอนุกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
17. ข้อมูลข่าวสารราชการ หากมีบางส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยให้ดำเนินการเช่นใด
. ห้ามเปิดเผยทั้งฉบับ                               . ให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง
. ให้ลบหรือตัดตอนข้อความนั้น                 ง. ให้ดำเนินการข้อใดข้อหนึ่ง
18. ภาระหน้าที่สำคัญของหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารส่วนราชการคือข้อใด
. พิมพ์ข้อมูลข่าวสารลงในราชกิจจานุเบกษา     . จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนได้ตรวจดู
. ทำข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอ                       . ถูกทุกข้อ
19. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ควรเปิดเผยหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการตามข้อใด
. แจ้งให้ประชาชนได้ทราบ                         ข. ประกาศห้ามในราชกิจจานุเบกษา
. ลบหรือตัดทอนข้อมูลข่าวสารนั้น                 . ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
20. หากประชาชนขอดูข้อมูลข่าวสารต่อหน่วยงานของท่าน แต่ข้อมูลข่าวสารนั้นอยู่ในความควบคุมของหน่วยงานอื่น จะดำเนินการอย่างไร
. ไม่รับคำขอ                               . รับคำขอและยื่นต่อหน่วยงานนั้นๆ
. รับคำขอและเป็นธุระจัดหาให้           . แนะนำให้ไปยื่นคำขอต่อหน่วยงานนั้นๆ
21. กรณีประชาชนไม่ได้ดูข้อมูลข่าวสารจากราชการหรือไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันสมควรจะร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ              
. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
22. ข้อมูลข่าวสารใด หน่วยงานราชการเปิดเผยไม่ได้
. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
. รายงานบทบาทการแพทย์ของบุคคลใดๆ
. ข้อมูลเกี่ยวกับราชการทางทหาร
. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
23. ข้อมูลที่หน่วยงานรัฐจะเปิดเผยแต่กระทบต่อบุคคลอื่นๆ ต้องแจ้งให้บุคคลนั้นเสนอคัดค้านมิให้เปิดเผยในเวลาตามข้อใด
. ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง      . ไม่น้อยกว่า 15 วันนับแต่วันรับแจ้ง
. ภายใน 30 วันนับแต่วันรับแจ้ง         . ไม่น้อยกว่า 30 วันนับแต่วันรับแจ้ง
24. กรณีที่มีการคัดค้านคำสั่งเปิดเผยข้อมูล และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งไม่รับฟ้องคำคัดค้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้เมื่อใด
ก. เปิดเผยได้ทันที
ข. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์
ค. เปิดเผยได้เมื่อล่วงพ้น 30 วันไปแล้ว
ง. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้น 45 วันไปแล้ว
25. การดำเนินการตามข้อ 24 หากหน่วยงานรับยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยและมีคำสั่งมิให้รับฟัง
คำคัดค้านบุคคลนั้นจะอุทธรณ์เพื่อมิให้เปิดเผยข้อมูลต่อใคร
. เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ                              ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร   . นายกรัฐมนตรี
26. ข้อมูลที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยหากมีอายุการเก็บครบ 20 ปี แต่หน่วยงานรัฐเห็นว่ายังไม่ควรเปิดเผยต้องของขยายเวลาส่งเก็บรักษา โดยขยายเวลาไม่เกินคราวละกี่ปี
. 1 ปี           . 5 ปี            . 7 ปี           . 10 ปี

27. ผู้ขอข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการในกรณีหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในข้อใด
ก. ไม่จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนดู
ข. ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
ค. ไม่อำนวยความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันควร
ง. ถูกทุกข้อ
28. ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะเก็บรักษา หรือมีอายุครบเก็บ จะต้องเก็บรักษา หรือจัดให้ประชาชนได้ศึกษาที่หน่วยงานใด
. สำนักงานทะเบียนกลาง สำนักนายกรัฐมนตรี
. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
. สำนักงานทะเบียนกลางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
. ให้หน่วยงานรัฐนั้นๆ ทำลายตามระเบียบงานสารบรรณ
29. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ มีอายุการเก็บรักษากี่ปี
. 20 ปี                   . 25 ปี                   . 35 ปี                   . 75 ปี
30. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
. คณะกรรมการมีทั้งหมด 23 คนโดยตำแหน่ง 14 คนผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน
. คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปีแต่งตั้งอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 2 วาระ
. การวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการคือเสียงข้างมาก
. คณะกรรมการพิจารณาคำร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายในวัน 30 วัน หากจำเป็นขยายเวลาอีก
ไม่เกิน 30 วัน
31. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯ
. มีจำนวน 5 คณะแต่งตั้งโดย ครม.ตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเสนอ
. คณะกรรมการแต่ละคณะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน
. เลขานุการ , ผู้ช่วยเลขานุการแต่ละคณะแต่งตั้งจากข้าราชการประจำ
. การพิจารณาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดให้กรรมการที่แต่งตั้งจากหน่วยงานนั้น
รับข้อมูลไปพิจารณา
32. เมื่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารได้รับข้ออุทธรณ์จากผู้ขอ ต้องส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลสาขานั้นๆ ภายในกี่วัน นับตั้งแต่คณะกรรมการได้รับคำอุทธรณ์
. 5 วัน                   . 7 วัน                      . 10 วัน                  . 15 วัน
33. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
. คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลให้ถือเป็นที่สุด
. กรรมการวินิจฉัยข้อมูลจะเป็นเลขานุการในคณะนั้นๆ
. ระเบียบการรักษาความปลอดภัยยังใช้อยู่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง
. คณะกรรมการแต่ละคณะมี 3 คน
34. ผู้ใดที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเรียกมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งวัสดุเอกสาร พยานมาให้แต่ไม่ทำตามคำสั่งของคณะกรรมการ มีบทบาทลงโทษตามข้อใด
. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน                    . ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
. ทั้งจำ ทั้งปรับ                            . ถูกทุกข้อ
35. ผู้ใดฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามข้อจำกัดตามเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนด ทำให้มีความรับผิดชอบตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามข้อใด
. จำคุกไม่เกิน 1 ปี                         . จำคุกไม่เกิน 2 ปี
. ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท                 . ข้อ ก หรือ ค หรือทั้งจำทั้งปรับ
36. รัฐธรรมนูญมาตราใดบ้าง ที่กล่าวอ้างเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
. มาตรา 58                                . มาตรา 59
. มาตรา 60                                . เฉพาะข้อ ก , ข เท่านั้น
37. ข้อใดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร
. พิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล
. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งที่ให้รับคำคัดค้าน
. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคล
. ถูกทุกข้อ
38. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. กำหนดหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. สอดส่องการดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
ค. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
ง. พิจารณาและให้ความเห็นเรื่องร้องเรียน
39. ข้อใดไม่ใช่วิธีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานรัฐ
. การขาย      . การจำหน่าย           . การจ่ายแจก           . การประกาศ
240 ข้อมูลข่าวสารของราชการใดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
. รายงานทางการแพทย์
. ข้อมูลข่าวสารทางการปกครอง
. ทุกข้อมูลต้องเปิดเผย
41.ข้อมูลข่าวสารที่สามารถจัดให้ประชาชนเข้าตรวจได้  แต่ถ้าต้องห้ามมิให้เปิดเผยให้ดำเนินการ
ตามข้อใด
. ไม่เปิดเผยทั้งฉบับ                                 . มีคำสั่งมิให้เปิดเผย
. ลบ ตัดตอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย   ง. ขีดฆ่าข้อความนั้น
42. ใครมีสิทธิเขาตรวจดู ขอสำเนาของข้อมูลข่าวสารที่ส่วนราชการจัดไว้ให้
. บุคคลทั่วไป                                        ข. บุคคลที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับข้อมูล
. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับข้อมูล           . ถูกทุกข้อ
43. หากมีบุคคลมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ฯ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ
ภายในกี่วัน
. ภายใน 15 วัน                            . ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
. ภายใน 30 วัน                            . ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
44. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ฯ จะก่อให้เกิดอันตราย หรือต่อความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จะดำเนินการอย่างไร
. ไม่เปิดเผย                                ข. ให้คำชี้แจง
. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย                      ง. ไม่รับคำขอ
45. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล คำว่าบุคคล หมายถึงข้อใด
. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย                                       ข. นิติบุคคล
. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย   . ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ค
46. ผู้มีอำนาจวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือคำสั่ง ไม่รับคำคัดค้านและคำสั่งไม่ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูล คือหน่วยงานใด
. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ  
. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
. คณะอนุกรรมการที่มีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ของราชการแต่งตั้ง
. คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารราชการแต่งตั้ง
47. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานรัฐตาม พรบ. ข้อมูลข่าวสารราชการ พ..2540
. กระทรวงศึกษาธิการ                     ข. คณะกรรมการของสภา
. คณะกรรมการการเลือกตั้ง              . ศาลที่พิจารณาคดี
48. ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผย เนื่องจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อข้าราชการในสังกัดเมื่อเก็บรักษาไว้แล้วกี่ปี จึงจะส่งข้อมูลดังกล่าวไปเก็บไว้ที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติ
. ครบ 10 ปี              . ครบ 20 ปี             ค. ครบ 25 ปี             ง. ครบ 75 ปี
49. ใครเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
. นายกรัฐมนตรี                            . รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
. รมต.ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย    . ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
50. ใครเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการ
. นายกรัฐมนตรี                          . รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

. รมต.ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย        . ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น