การปฏิรูปการศึกษา
utq 2126 ได้คะแนน 18/20
1. นโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง เป็นระยะเวลาในช่วงใด ก. พ.ศ. 2554 – 2558 ข. พ.ศ. 2552 – 2561 ค. พ.ศ. 2550 – 2560 ง. พ.ศ. 2548 - 2558 2. นโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้ข้อใดที่ครูผู้ปฏิบัติการ มีส่วนเกี่ยวข้องและมีบทบาทในการขับเคลื่อนครั้งนี้ ก. ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ข. ปรับปรุงการผลิต การพัฒนาการใช้ครู ค. พัฒนาการบริหารจัดการและการกระจายอำนาจ ง. ปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลทุกระดับ 3. จุดเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนากลุ่มเป้าหมายเด็กปฐมวัยข้อใดที่เป็นหน้าที่โดยตรงของครูปฐมวัย ก. เด็กอายุ 3 ปี ทุกคนได้รับการคิดกรองพัฒนาการและการช่วยเหลือตั้งแต่แรกเริ่ม ข. พ่อแม่ผู้เกี่ยวข้องเด็กปฐมวัยได้รับการอบรมการเลี้ยงดูเด็กอย่างมีคุณภาพ ค. ผู้จะมีบุตรทุกคนได้รับการศึกษาอบรมเตรียมพร้อมการเป็นพ่อแม่ที่ดี ง. เด็กอายุ 3 ปี ทุกคนได้รับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา 4. การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ข้อใดที่ไม่ใช่ความหมายที่ถูกต้อง ก. คนไทยได้เรียนฟรีทุกระดับชั้นตลอดชีวิต ข. คนไทยมีสมรรถนะในการดำเนินชีวิตรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ค. คนไทยสามารถคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา สร้างสรรค์ มีจิตสาธารณะ มีคุณภาพ ง. คนไทยสามารถเรียนรู้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต 5. จากการกำหนดให้มีสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น 8 สาระ สืบเนื่องเชื่อมโยงกับแนวคิดใดเป็นสำคัญ ก. สาระที่ควรเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 ข. สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ค. ขอบเขตเนื้อหาวิทยาศาสตร์ความเหมาะสมกับพัฒนาการความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กปฐมวัย ง. ถูกทุกข้อ 6. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่เหมาะสมให้แก่เด็กปฐมวัยจะช่วยพัฒนาศักยภาพผู้เรียนในด้านใด ก. ด้านสติปัญญา ด้านสังคม ด้านร่างกาย ข. ด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา ค. ด้านความตระหนักรู้โลกธรรมชาติรอบตัว และพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ง. ด้านสติปัญญามีความรู้ ความจำ คิดวิเคราะห์และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 7. นักเรียนที่มีทักษะทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ดีมักประสบความสำเร็จในการเรียนวิชาอื่น ๆ ร่วมด้วยเป็นเช่นนี้เพราะ ก. ได้เรียนรู้ทำกิจกรรมร่วมกลุ่มและเปลี่ยนความคิดเห็น ข. ได้เรียนรู้ด้วยการฝึกซ้อม ทำแบบฝึกหัดสม่ำเสมอ ค. ได้ฝึกคิดที่หลากหลายและเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ง. มีระเบียบแบบแผนการปฏิบัติที่เป็นระบ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนโดยให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เป็นการจัดกิจกรรมที่อาศัยองค์ความรู้ใด ก. ตามหลักการสอนเด็กปฐมวัย ข. ธรรมชาติการเรียนรู้ของสมอง ค. หลักการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ง. ความสัมพันธ์ของวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ 9. ขั้นตอนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ในชั้นเรียนปฐมวัยที่ถูกต้องคือ ก. ตั้งคำถาม สำรวจ สร้างคำอธิบาย รวบรวมข้อมูลนำเสนอผล ข. ตั้งคำถาม สำรวจ รวบรวมข้อมูล นำเสนอผล สร้างคำอธิบาย ค. ตั้งคำถาม สำรวจ รวบรวมข้อมูล สร้างคำอธิบาย นำเสนอผล ง. ตั้งคำถาม สร้างคำอธิบาย สำรวจ รวบรวมข้อมูลนำเสนอผล 10. วิธีการถามคำถามที่ดี คือ ก. ถามโดยให้ทุกคนได้ตอบพร้อม ๆ กัน ข. คำถามที่เข้าใจง่ายไม่ซ้อนคำถาม ค. คำถามที่ยากจึงจะสามารถแยกเด็กเก่งได้ชัดเจน ง. คำถามที่กำหนดเวลาจำกัดเพื่อเร่งให้เด็กใช้ศักยภาพเต็มที่ 11. คำถามระดับสูงคือคำถามประเภท ก. คำถามบ่งชี้ ข. คำถามให้เปรียบเทียบ ค. คำถามเร้าความสนใจ ง. คำถามให้บอกความหมาย 12. การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้จากหน่วยการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สามารถออกแบบบูรณาการในลักษณะ ก. สัมพันธ์กับสาระทักษะวิชา ข. สัมพันธ์กับพัฒนาการ 4 ด้าน ค. สัมพันธ์กับกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ง. ถูกทุกข้อ 13. การกำหนดจุดประสงค์ สาระที่ควรรู้ ประสบการณ์สำคัญ ตลอดจนการประเมินพัฒนาการในการจัดกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์นั้น ได้จากการวิเคราะห์ ก. มาตรฐานการเรียนรู้ ข. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ค. ตัวชี้วัดของแต่ละมาตรฐานการเรียนรู้ ง. ไม่มีข้อใดถูก 14. เครื่องมือที่เหมาะสมกับการประเมินเจตคติของคณิตศาสตร์คือ ก. แบบสังเกต ข. แบบสัมภาษณ์ ค. การสะสมงาน ง. แบบบันทึกพฤติกรรม 15. ข้อใดที่ไม่ถูกต้องตามหลักการประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ก. เป็นการประเมินกระบวนการปฏิบัติในสถานการณ์จริง ข. เป็นการประเมินจากคะแนนที่ได้จากการทดสอบ ค. เป็นการประเมินที่กระตุ้นให้ผู้เรียนประเมินตนเองจากการสำรวจของตนเอง ง. เป็นการประเมินครอบคลุมด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรม และผลการปฏิบัติงาน 16. แฟ้มสะสมงานลักษณะใดที่เหมาะกับการประเมินตามสภาพจริง ก. แฟ้มสะสมงานที่รวบรวมผลงานที่บ่งบอกจุดเด่นและจุดด้อย ข. แฟ้มสะสมงานจากการทำกิจกรรมประจำวัน ค. แฟ้มสะสมงานดีเด่นของเด็กปฐมวัย ง. แฟ้มสะสมงานที่มีงานทั้ง 3 ลักษณะ 17. ร่องรอยหลักฐานใดที่ไม่ได้เป็นสารนิทัศน์ที่ครูปฐมวัยพึงจัดทำ ก. ผลคะแนนสอบ ข. แฟ้มสะสมงานเด็กเป็นรายบุคคล ค. แบบบรรยายรายงานสรุปการดำเนินการเรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ ง. แบบสังเกตพัฒนาการ แบบบันทึกพฤติกรรม แบบบันทึกพัฒนาการ 18. ข้อใดที่ไม่สอดคล้องกับแนวการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ก. ทำการทดสอบข้อเขียน เพื่อความคุ้นเคยเมื่อขึ้นระดับประถม ข. ทำการประเมินควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ค. มีการรวบรวมผลงานนักเรียนเพื่อให้ในการประเมิน ง. ทำอย่างเป็นระบบ มีการวางแผน กำหนดเครื่องมือ 19. องค์ประกอบที่สำคัญในการประกันคุณภาพเป็นสถานศึกษาปฐมวัยตามเกณฑ์ของ สพฐ. มีกี่ด้าน ก. 6 ด้าน ข. 5 ด้าน ค. 4 ด้าน ง. 3 ด้าน 20. ปัจจัยที่แสดงให้เห็นคุณภาพการศึกษาในการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาปฐมวัย ตามเกณฑ์ของ สพฐ. ประกอบด้วยด้านใด ก. ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ข. ด้านผู้เรียน ด้านครู ด้านผู้บริหาร ด้านกรรมการสถานศึกษา ค. ด้านคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู คุณภาพผู้บริหาร คุณภาพสิ่งแวดล้อม ง. คุณภาพผู้เรียน การจัดการศึกษา สังคมแห่งการเรียนรู้ อัตลักษณ์การศึกษา ด้านการส่งเสริม เฉลย 1ข 2 ง 3ก 4ก 5ง 6 ค 7ค 8 ข 9ค 10 ข 11 ข 12ง 13ค 14ข 15 ข 16 ก 17ก 18ก 19ข 20ง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น